ถ้าถูกถึงหนังตลกของญี่ปุ่นแล้ว ก็มีแนวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หนังโรแมนติก, คอมเมดี้, หนังแอ็คชั่นตลก, หนังตลกแนวสยองขวัญ หรือแม้แต่หนังตลกที่ดัดแปลงมาจากพวกการ์ตูนมังงะ เรียกว่าเป็นการ์ตูนก็ว่าดีแล้ว แต่พอมาเป็นหนังดียิ่งกว่า วันนี้เราเลยลิสต์เอา 10 อันดับหนังตลกญี่ปุ่น..ที่ดูแล้วได้ขำและดีต่อใจ ที่คุณจะได้อะไรมากกว่าความตลก สนุกสนานอย่างแน่นอน
1. One Cut of the Dead
“One Cut of the Dead” ชื่อไทยว่า “วันคัท ซอมบี้งับๆๆๆ” หนังญี่ปุ่นเค้าก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับซอมบี้เหมือนกัน อย่างเรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องราวของเบื้องหลังการถ่ายทำหนังซอมบี้ เรียกว่าถ่ายหนังซ้อนหนังนั่นเอง ซึ่งความตลกของเรื่องนั้นกลับไม่ได้อยู่ที่ซอมบี้ ที่เที่ยวไล่งับคนในกอง แต่กลับเป็นมุกที่เสียดสีสังคมในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ หรือจะเป็นนักแสดงสุดติสต์ที่เอาแต่ใจ เรียกว่าหนังเรื่องนี้เอาปัญหาจริงๆ มาเล่นเป็นมุกที่ทำให้คนดูเข้าใจง่ายและตลกตามได้ไม่ยาก
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “ทาคายูกิ” (ทาคายูกิ ฮิกูราชิ) ผู้กำกับหนังรายหนึ่ง ที่เกิดปิ๊งไอเดียการถ่ายทำหนังซอมบี้แบบเทคเดียวไม่สั่งคัต งานนี้เลยพานักแสดงและทีมงาน อย่าง “คาซูอากิ” (คาซูอากิ คามิยะ) พระเอกของเรื่องที่ต้องมารับบทซอมบี้, “ไอกะ” (ยูซูกิ อากิยาม่า) นางเอกที่ขึ้นชื่อความเรื่องเยอะ, “ฮารูมิ” (ฮารูมิ ฮิกูราชิ) เมคอัพอาร์ตทิสต์, “โทชิซู” (จุนทาโร่ ยามาซากิ) บูมแมน, “ฮิโรชิ” (ฮิโรชิ ยามานูจิ) หนุ่มพรอพ และ “มานาบุ” (มานาบุ โฮโซดะ) ตากล้อง ไปถ่ายทำกันที่โรงงานร้างแห่งหนึ่ง แต่แล้วก็เกิดเหตุสยองขวัญเมื่อซอมบี้ตัวจริงโผล่เข้ามาอยู่ในหนัง เลยทำให้ทุกคนต่างพากันหนีตายจ้าละหวั่น
ผู้กำกับ | ชินอิจิโร่ อูเอดะ |
คะแนน IMDb | 7.7 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=yIjrUJvUQKc |
2. When I Get Home, My Wife Always Pretends to be Dead
“When I Get Home, My Wife Always Pretends to be Dead” ชื่อไทยว่า “ผมล่ะเพลีย เมียแกล้งตาย!?” เรื่องนี้เป็นแนวดราม่า, คอมเมดี้ ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตคนในสังคมเมืองในญี่ปุ่น แม้จะมีชีวิตที่เรียบง่ายก็จริงแต่มีความจำเจจนเข้าขั้นน่าเบื่อหน่าย จนทำให้เกิดการบั่นทอนความสุขในชีวิตคู่ไป และที่ทำให้ขำน่าจะมุกที่ภรรยานำมาแกล้งตายที่เด่นสุดน่าจะเป็นฉากที่สามีเปิดประตูเข้ามาเห็นภรรยาถูกจระเข้งับหัวอยู่ ที่ทำเอาตกใจและหลุดขำออกมาได้เหมือนกัน เจอแบบนี้ใครไม่เพลียก็แย่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่หนังนำเสนอนอกจากความตลก คือการทำให้คนลองมองย้อนกลับไปถึงความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างนั่นเอง
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “จิเอะ” (นานา อิกุระ) ภรรยาที่รับหน้าที่เป็นแม่บ้านแบบเต็มตัว โดย “จุน” (เคน ยาซูดะ) เป็นพนักงานบริษัท ซึ่งทั้งคู่อาศัยอยู่ที่โตเกียวและแต่งงานกันมาร่วม 3 ปี สำหรับ “จุน” การแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่2 ทำให้ทั้งคู่ตกลงกันว่าเมื่อแต่งงานครบ 3 ปีเมื่อไหร่ จะกลับมาทบทวนความรู้สึกของตัวเอง แต่วันหนึ่งกลับมีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้น เมื่อ “จุน” สามีกลับมาจากทำงานพบว่าภรรยาของเขาจัดฉากแกล้งตาย ซึ่งภรรยาของเขาทำแบบนี้ทุกวันแถมยังสรรหาวิธีแกล้งตายสารพัด จนทำให้ตัวสามีตกอกตกใจไม่น้อย
ผู้กำกับ | ริ โทชิโอะ |
คะแนน IMDb | 6.2 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=fuxWs3M6n7U |
3. Brave Father Online : our story of Final Fantasy XIV
“Brave Father Online : our story of Final Fantasy XIV” ชื่อไทยว่า “คุณพ่อนักรบแห่งแสง” เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นไปกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชาย ที่เมื่อลูกโตแล้วอาจดูห่างเหินกันบ้าง ซึ่งเรื่องนี้จะได้เห็นถึงทัศนะคติของคนที่ต่างวัยกัน ซึ่งหนังก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้เป็นอย่างดี รวมถึงมุกตลกๆ ที่ใส่เข้ามา ก็ไม่ได้ทำให้ความซึ้งของพ่อลูกคู่นี้ลดทอนลงเลย ยิ่ง 2 นักแสดงต่างวัย “โคทาโร่ โยชิดะ” ที่รับบทเป็นพ่อ และ “เคนทาโร่ ซาคากุจิ” ที่รับบทเป็นลูกชาย แล้วยิ่งเป็นการทำให้ตัวแสดงดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นไปอีก
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของพ่อลูกคู่หนึ่ง โดย “อากาซึกิ” (โคทาโร่ โยชิดะ) ผู้เป็นพ่อที่ขึ้นชื่อเรื่องบ้างาน แต่วันหนึ่งกลับลาออกงานงานมาอยู่บ้าน และ “อากิโอะ” (เคนทาโร่ ซาคากุจิ) ลูกชาย ที่ไม่ได้สื่อสารกับพ่อมานานตั้งแต่โต แล้ววันหนึ่งเกิดความคิดชวนพ่อมาเล่นเกมออนไลน์ไฟนอล แฟนตาซี 14 และเขาคอยช่วยเหลือพ่อในเกมโดยไม่ให้พ่อรู้ ก็เพื่อหวังว่าการเล่มเกมจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกกับมาดีเหมือนในอดีต ซึ่งการกระทำนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ “อากิโอะ” รู้จักพ่อมากขึ้น แต่กลับทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรบางอย่างไปพร้อมๆกันด้วย
ผู้กำกับ | 1.เทรุโอะ โนกุจิ 2.คิโยชิ ยามาโมโตะ |
คะแนน IMDb | 6.9 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=yhaR-17L0dw |
4. Let’s Go Jets
“Let’s Go Jets” ชื่อไทยว่า “เชียร์ เกิร์ล! เชียร์เธอ” เรียกได้ว่าเรื่องนี้ครบรสจริงๆ ทั้งตลก, สนุกสนาน, ซึ้งกินใจ โดยคนดูจะได้เห็นความพยายามของสาวๆ ในทีมเชียร์ลีดเดอร์ แม้ว่าจะถูกมองว่าเป็นพวกไม่เอาไหน แต่พวกเธอก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อที่จะคว้าชัยชนะมาเป็นของทีมให้จงได้ ดังนั้นเราจะได้เห็นกลุ่มสาวๆ เชียร์ลีดเดอร์ที่มีพื้นฐานเป็นศูนย์ค่อยๆ พัฒนาจนเข้าตากรรมการ ตรงนี้เราจะได้เห็นความฮาๆ ของเหล่าสาวๆ รวมถึงความน่ารักที่หลายคนดูแล้วต้องยิ้มตามอย่างแน่นอน
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “ฮิคาริ โทโมนากะ” (ฮิโรเสะ ซูสึ) สาวมัธยมปลาย ที่อยากเข้าชมรมเชียร์ลีดเดอร์ JETS เพียงเพื่อต้องการอยากอยู่ใกล้ “โคสุเกะ” (แมคเคนยู อาระตะ) เพื่อนในวัยเด็กที่แอบชอบมานาน แต่ต้องมาเจอกับ “คาโอรุโกะ ซาโอโตเมะ” (ยูกิ อายามิ) โค้ชสุดโหดและเนี้ยบ เพราะมีจุดมุ่งหมายพาทีมไปแข่งเชียร์ลีดเดอร์ที่อเมริกา พร้อมตั้งกฎเหล็ก ห้ามออกจากชมรมและห้ามมีความรัก จนทำให้สมาชิกรุ่นพี่ต่างพากันลาออก เหลือแต่เพียงเด็กใหม่ 24 คน ที่ดูจะไม่ได้เรื่อง แต่ “อายาโนะ ทามากิ” (อายามิ นาคาโจ) เพื่อนร่วมทีม พยายามบอกให้ “ฮิคาริ” อยู่ต่อเพื่อคว้าชัยชนะในการแข่งขันด้วยกัน
ผู้กำกับ | ฮายาโตะ คาวาอิ |
คะแนน IMDb | 6.5 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=nfzxZHE-Fss |
5. Gintama 2
“Gintama 2” ชื่อไทยว่า “ซามูไร เพี้ยนสารพัด 2 : แหกกฎชิมิก่อนไม่รอแล้วนะ” ใครที่เคยดูภาคแรกกันมาว่าสนุกแล้ว พอมาในภาคที่ 2 เรื่องความสนุกสนาน ความเพี้ยนต่างๆ ก็ดูจะมากขึ้นไปอีก แถมด้วยเนื้อเรื่องที่ดูจะมีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะได้รวบรวมเอามุกฮาๆ เรียกเสียงหัวเราะ, มุกตลกที่เกี่ยวกับสถานการณ์ขณะนั้นมาใส่ในเรื่องให้ได้ขำ หรือจะเป็นตลกหน้าตายของเหล่าซามูไรสุดเพี้ยน ที่เชื่อว่าหลายคนเห็นหน้าก็ต้องขำออกมาแล้ว ยิ่งได้เจอมุกขำๆ เข้าไปอีก ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่หยุดเลยทีเดียว แถมเหล่านักแสดงยังแสดงสีหน้า ท่าทาง เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนมังงะยังไงอย่างนั้นเลย
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “กินโทกิ” (ชุน โองุริ) อดีตซามูไร พร้อมด้วย 2 เพื่อนซี้อย่าง “ชินปาจิ” (มาซากิ ซุดะ) และ “คางุระ” (คันนะ ฮาชิโมโตะ) ที่ต่างก็มีปัญหาเรื่องการงาน ทั้งหมดต้องหาเงินมาจ่ายค่าบ้าน เลยทำให้ต้องหางานพิเศษทำให้ได้ จนได้มาเจอกับ “ท่านโชกุน” ที่มอบหมายงานที่ว่าทำให้ทั้ง 3 คนเข้าไปพัวพันกับหน่วยชินเซ็นกุมิ และทำให้หน่วยนี้ต้องแตกหักให้ได้ ซึ่งเมทื่อทั้ง 3 คนเข้าไปแล้วกลับทำให้ต้องเจอกับเรื่องราวฮาๆ ป่วนๆ สนุกสนานมากมาย
ผู้กำกับ | ยูอิจิ ฟุคุดะ |
คะแนน IMDb | 6.4 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=v2U00tCtdtw |
6. PEACH GIRL
“PEACH GIRL” ชื่อไทยว่า “เธอสุดแสบที่แอบรัก” ใครที่เคยอ่านการ์ตูนเรื่อง Peach Girl ก็คงจะคุ้นกับพล็อตเรื่อง เพราะหนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากการ์ตูนสุดฮิตนั่นเอง ตอนเป็นการ์ตูนว่าสนุก น่ารักแล้ว พอมาถ่ายทอดในรูปแบบหนังยิ่งสนุกมากขึ้นอีก เพราะเรื่องนี้ผู้กำกับดีไซน์ให้เหล่านักแสดง แสดงออกมาแบบโอเวอร์แอ็คติ้ง เลยทำให้ดูเหมือนการ์ตูนมากๆ แม้ว่าเรื่องจะเน้นไปที่ความรักของ “โมโมะ” ที่แสดงโดย “มิซูกิ ยามาโมโตะ” แต่ภาพรวมของหนังนอกจากมีความน่ารักเหมือนการ์ตูนแล้ว ยังมีเรื่องของความตลก สนุกสนานเข้ามาทำให้หนังเรื่องนี้ลงตัว ยิ่งนักแสดงสาว “ซาเอะ” ที่มารับบท “เมอิ นากาโนะ” ที่ต้องถ่านทอดความอิจฉาริษยาเพื่อนสนิทออกมาให้ดูโอเวอร์แอ็คติ้ง จนทำให้คนดูหมั่นไส้และก็ขำในเวลาเดียวกัน
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ “โมโมะ อะดาจิ” (มิซูกิ ยามาโมโตะ) สาวม.ปลายผิวแทนผมแดง เพราะเกิดจากการที่เธอชอบว่ายน้ำ แต่แล้ววันหนึ่งกลับมีข่าวลือว่า “โมโมะ” จูบกับ “ไคริ โอคายาสึ” (เคย์ อิโนโอะ) หนุ่มฮอตประจำรุ่นที่สาวๆ ต่างกรี๊ด เลยยิ่งทำให้เธอถูกแกล้งจากกลุ่มนักเรียนหญิงที่หมายปอง “ไคริ” อยู่ แต่จริงๆ แล้ว “โมโมะ” แอบชอบ “โทจิ” (แมคเคนยู) เพื่อนสมัยเด็ก แต่ไม่กล้าสารภาพรักเพราะ “โทจิ” บอกชอบผู้หญิงผิวขาว ด้าน “ซาเอะ คาชิวากิ” (เมอิ นากาโนะ) เพื่อนสนิท “โมโมะ” แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวป็อปแต่ก็แอบอิจฉา “โมโมะ”ตลอด และยิ่งรู้ว่าเธอชอบ “โทจิ” อยู่ “ซาเอะ” ก็พยายามที่จะพิชิตใจเขา เพื่อที่ต้องการเอาชนะ “โมโมะ”ให้ได้
ผู้กำกับ | โคจิ ชินโตคุ |
คะแนน IMDb | 5.9 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=yWFOOpjsMWQ |
7. Back Street Girls: Gokudols
“Back Street Girls: Gokudols” ชื่อไทยว่า “ไอดอลสุดซ่า ป๊ะป๋าสั่งลุย” ใครที่ต้องกาความบันเทิงดูเรื่องนี้รับรองว่าบันเทิงและสนุกสนานสมใจอยากแน่ๆ เพราะเรื่องนี้ 3 หนุ่มแก๊งยากูซ่าต้องมาผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิง แถมยังตัวเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปอีก และด้วยความที่ต้องมีฉากที่ 3 สาว ต้องปะทะกับ 3 แก๊งยากูซ่า เป็นการคุยตัดสลับไปมา ไม่ต้องกลัวว่าจะสับสนหรืองง เพราะเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีดูง่ายไม่ซับซ้อน แต่ที่ตลกน่าจะเป็นตอนที่ไอดอลสาวที่ภายนอกดูน่าตาน่ารัก ต้องมาพูดมุกตลก ดิบๆ เถื่อนๆ สไตล์ยากูซ่าก็ทำเอาคนดูขำได้ เช่นเดียวกับนักแสดงชายที่แสดงดีอินเนอร์เยี่ยมไม่แพ้สาวๆ เลยทีเดียว
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ 3 หนุ่มแก๊งยากูซ่า อย่าง “ยามาโมโตะ เคนทาโร่” (ชิราสุ จิน), “ทาจิบานะ เรียว” (ฮานาซาว่า มาซาโตะ) และ “สุงิฮาระ คาซุฮิโกะ” (มาซากิ เรยะ) ที่ทำงานพลาดจนหัวหน้าของทั้ง 3 คน ที่พวกเขาเรียกว่า “ป๊ะป๋า” อยากจะฆ่าตัดตอนทิ้ง แต่เกิดไอเดียจากการเห็นวงไอดอล AKB48 ประสบความสำเร็จ เลยให้ทั้ง 3 เลือกว่าจะยอมตายหรือจะไปผ่าตัดแปลงเพศที่เมืองไทยแล้วมาเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป แน่นอนว่าทั้ง 3 เลือกแปลงเพศ จากนั้นก็ทำให้เกิดไอดอลใหม่ที่ชื่อ โกคุดอลส์ โดยเหล่าโอตะไม่รู้ว่าพวกเธอเคยเป็นยากูซ่ามาก่อน
ผู้กำกับ | เคย์โนสุเกะ ฮาระ |
คะแนน IMDb | 5.5 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=uB5B6PBDnnU |
8. A Banana? At This Time of Night?
“A Banana? At This Time of Night?” เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของ “ยาสุอากิ ชิคาโนะ” ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อลีบ และต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นตลอด เลยทำให้เรื่องความตลก สนุกสนาน อาจจะไม่ได้แกนหลักของเรื่องสักเท่าไหร่ แต่ก็มีให้คนดูได้ยิ้มๆ กันบ้างเล็กน้อย แต่เรื่องราวของความดราม่าเรื่องนี้มีให้เห็นซะมากกว่า โดยเฉพาะมุมมองของคนป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ กับเหล่าอาสาสมัครที่คอยช่วยเหลือคนเหล่านี้ หรือจะเป็นเรื่องที่ตัวละคร “ชิคาโนะ” ตกหลุมรัก “มิซากิ” โดยไม่รู้ว่าเป็นแฟนของ “ทานากะ” อาสาสมัครของเขา เรื่องนี้ก็บีบหัวใจไม่ใช่น้อย
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “ยาสุอากิ ชิคาโนะ” (โย โออิซูมิ) ชายหนุ่มที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อลีบจากพันธุกรรม เลยทำให้เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้เลยนอกจากมือและคอเท่านั้น เลยทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น แต่เขาก็เลือกที่จ้างอาสาสมัครมาดูแลที่บ้านแทนที่จะต้องยู่รพ. จนมาเจอกับ “ทานากะ” หนุ่มนักศึกษาแพทย์ ที่ทำหน้าที่ดูแลเขา ซึ่ง “ชิคาโนะ” มักจะใช้เขาแบบไม่เกรงใจอย่าง เรียกให้ไปซื้อกล้วยให้กลางดึก หรือให้มาค้างด้วยกัน ทำให้ “มิซากิ” (มิซูกิ ทาคาฮาตะ) แฟนสาวของ “ทานากะ” ไม่พอใจ แต่เมื่อมาเจอ “ชิคาโนะ” เธอก็เริ่มเปลี่ยนความคิดเพราะได้เห็นแง่มุมที่ดีระหว่างชายพิการกับเหล่าอาสาสมัคร
ผู้กำกับ | เท็ตสึ มาเอดะ |
คะแนน IMDb | 5.9 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=tawMjPt9ycM |
9. Honnouji Hotel
“Honnouji Hotel” เรื่องนี้เป็นแนวย้อนยุค, ตลก, ลึกลับ เป็นเรื่องที่หญิงสาวคนหนึ่งหลงเข้าไปในอดีตกว่า 400 ปี จนได้พบกับนักรบผู้กล้าคนหนึ่ง เป็นเรื่องราวที่ผูกเอาประวัติศาสตร์กับปัจจุบันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว เนื้อหาก็ดูง่าย กระชับ บวกกับความน่ารักของตัวแสดง อย่าง “อายาเสะ ฮารุกะ” หญิงสาวที่หลงไปในอดีต ซึ่งเธอคนนี้ก็ทำให้คนดูหลงรักได้ไม่ยากนอกเหนือจาหน้าตาที่สวยแล้ว เรื่องการแสดงยังทำให้คนดูอินไปตามๆ กัน รวมถึง “ชินอิจิ ทสึทสึมิ” ที่รับบทขุนนาง ซึ่งรายหลังนี้แสดงได้สมบทบาทจนทำให้คนดูเชื่อในลุคนั้นจริงๆ
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “คุราโมโตะ มายูโกะ” (อายาเสะ ฮารุกะ) หญิงสาวที่บังเอิญต้องหาโรงแรมพักที่โตเกียว จนไปเจอกับโรงแรมฮอนโนจิที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยลึก แต่แล้วพอเข้าพักเธอก็ต้องพบว่าตัวเองได้ย้อนอดีตกลับไปในปี ค.ศ.1582 หรือยุคเซ็งโงะกุ ยุคที่เต็มไปด้วยนักรบผู้กล้า จนกระทั่งเธอได้พบกับ “โอดะ โนบุนากะ” (ชินอิจิ ทสึทสึมิ) ที่พบว่าเขามีความกล้าหาญและมีความยุติธรรมเป็นที่สุด
ผู้กำกับ | มาซายูกิ ซูซูกิ |
คะแนน IMDb | 5.9 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=7YZC0UiTkZE |
10. 3D Girlfriend: Real Girl
“3D Girlfriend: Real Girl” เป็นอีกเรื่องที่สร้างจากการ์ตูนมังงะ ต้องบอกว่าหนังที่สร้างจากการ์ตูนนั้นมักจะมีกลิ่นไอของการ์ตูนรวมอยู่ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกัน จะมีความเป็นคอมเมดี้อยู่บ้าง อย่างตัวของ “ฮิคาริ ซุตซุย” นักเรียนชายที่อยู่แต่ในโลกการ์ตูน เพี้ยน เฉิ่มๆ กับสาวสวยประจำโรงเรียนอย่าง “อิโรฮะ” ที่ดูสวยน่ารักชนิดที่ว่าเป็นใครก็ต้องเหลียวหลังมอง ทำให้คนดูเดาเรื่องไม่ยากแม้จะไม่เคยอ่านการ์ตูนมาก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่มีทั้งความโรแมนติกและดราม่าอยู่ในนี้
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “ฮิคาริ ซุตซุย” นักเรียนหนุ่มสุดเพี้ยน ที่มีความชื่นชอบสาวๆ ในการ์ตูน, เกม มากกว่าคนจริงๆ เพราะเขาเป็นคนที่เข้าสังคมไม่ค่อยดี พูดไม่ค่อยเก่งเลยทำให้ไม่มีเพื่อนสักเท่าไหร่ และทำให้เขาอยู่คนเดียวในโลกส่วนตัวของเขา จนวันหนึ่งเขาได้ใกล้ชิดกับ “อิโรฮะ” สาวป็อปประจำโรงเรียน เลยทำให่เขารู้สึกชอบผู้หญิงที่เป็นคนขึ้นมาจริงๆ แต่ก็ไม่กล้าเปิดเผยความในใจ ซึ่ง “อิโรฮะ” นั้นก็ให้ความสนิทสนมกับเขาเป็นอย่างดี เรียกว่าไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ จนทำให้คนทั้งโรงเรียนแปลกใจในความสัมพันธ์ของคู่นี้
ผู้กำกับ | Tsutomu Hanabusa |
คะแนน IMDb | 5.7 |
วีดีโอตัวอย่าง | www.youtube.com/watch?v=kzyyNG |
ครบถ้วนแล้วกับ 10 อันดับหนังตลกญี่ปุ่น..ที่ดูแล้วได้ขำและให้แง่คิด หวังว่าหลายคนคงจะสนุกสนาน ได้เสียงหัวเราะ และได้แง่คิดกับหนังตลกญี่ปุ่นที่นำเสนอไป แน่นอนว่าช่วงเวลาแบบนี้เรามาคลายเครียดกับการดูหนังสักเรื่อง ก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน
เครดิตภาพ : www.villainmedia.com, www.slashfilm.com, www.sanook.com, www.asianwiki.com, www.athome.co.jp, www.cinemacafe.net, www.sahamongkolfilm.com, www.netflix.com, www.playinone.com, www.blogspot.com
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตแตกง่าย