10 อันดับหนังสงครามไทยที่ดีต่อใจ..ไม่ดูไม่ได้แล้ว

หนังไทย

ถ้าพูดถึงหนังสงครามแล้วหลายคนอาจจะนึกถึงฉากรบ ฉากต่อสู้ สาดกระสุนกันจ้าละหวั่น แต่ที่จะนำเสนอในวันนี้ คือ หนังสงครามไทย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่การรบนองเลือดอย่างเดียวเท่านั้น แต่หนังสงครามแบบไทยๆ ยังแฝงไว้ด้วยประวัติศาสตร์ชาติไทย และแง่คิดไว้ให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้คิดกันอีกด้วย ลองมาดูกันว่า 10 อันดับหนังสงครามไทยที่ดีต่อใจ..ไม่ดูไม่ได้แล้ว มีเรื่องไหนที่คุ้นตากันบ้าง

1. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

1. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

“ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังดีที่คนไทยภาคภูมิใจ เพราะนอกจากจะเป็นหนังอิงประวัติศาสตร์ไทยแล้ว เรายังได้เห็นถึงความประณีต ความอลังการ ตั้งแต่คัดเลือกตัวนักแสดง, ฉาก, โลเคชั่น เสื้อผ้าต่างๆ แถมดูแล้วทำให้รู้สึกถึงความเสียสละของบรรพบุรุษของไทย พอดูจบแล้วรู้สึกรักชาติมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และเรื่องนี้ยังถูกสร้างขึ้นมาถึง 6 ภาคด้วยกัน ได้แก่ ภาค1: องค์ประกันหงสา, ภาค2 : ประกาศอิสรภาพ, ภาค3 : ยุทธนาวี, ภาค4 : ศึกนันทบุเรง, ภาค5 : ยุทธหัตถี และ ภาค6 : อวสารหงสา ต้องบอกว่ากว่าจะถ่ายทำเสร็จแต่ละภาคนั้นต้องผ่านการบ่มเพาะให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด และพอได้ดูแล้วรู้เลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ 

1. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 02
1. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 03
1. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวเมื่อครั้งที่ “พระเจ้าบุเรงนอง” ได้ตีหัวเมืองตั้งแต่ สุโขทัย และพิษณุโลก จนทำให้ “พระธรรมราชา” แปรพัตร์เข้ากับ “พระเจ้าบุเรงนอง” จากนั้น “พระเจ้าบุเรงนอง” ได้ขอ “พระนเรศ” หรือ “องค์ดำ” (ปรัชฌา สนั่นวัฒนานนท์) พระโอรสของ “พระธรรมราชา” ไปเป็นตัวประกันที่หงสาวดี และการไปครั้งนี้ของ “องค์ดำ” ก็ได้มาเป็นศิษย์ของ “พระมหาเถรคันฉ่อง” (สรพงษ์ ชาตรี) พระประจำพระองค์ของ “พระเจ้าบุเรงนอง” ที่เชี่ยวชาญด้านศาสตราวุธเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นไม่นาน “พระมหาเถรคันฉ่อง” ก็ได้ให้ “องค์ดำ” บวชเณร และได้สั่นสอนวิชาต่างๆ รวมถึงได้สอนเกี่ยวกับเหตุบ้านการณ์เมืองแก่ “องค์ดำ” อีกด้วย 

ผู้กำกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
คะแนน IMDb6.9
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=tzY1HITdXKs
2. สุริโยไท

2. สุริโยไท

“สุริโยไท” ต้องบอกว่าเป็นหนังไทยอิงประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นที่รู้จักดีของคนไทย และเพราะมีเรื่องราวของประวัติศาสตร์ไทยที่เกิดขึ้นจริง เลยทำให้เนื้อเรื่องและเนื้อหาของหนังออกจะยาวไปสักหน่อย แต่ใครที่ไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์กันมาก่อนเลย ก็สามารถดูหนังเรื่องนี้ได้ทันที เพราะเป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนอย่างที่หลายคนกลัว แน่นอนว่าผลงานการกำกับของ “ท่านมุ้ย-ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล” ขึ้นชื่อเรื่องความละเอียดเป็นที่สุด เรียกว่าตรงจุดไหนไม่ดีไม่ยอมปล่อยผ่านมาถึงตาคนดูอย่างแน่นอน และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนไทยรู้สึกภาคภูมิใจอีกเรื่องหนึ่ง 

2. สุริโยไท 02
2. สุริโยไท 03
2. สุริโยไท 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวเมื่อครั้ง “สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2” สวรรคตในปี พ.ศ. 2072 จากนั้น “พระอาทิตยา” จึงได้ขึ้นครองราชย์ต่อ ในพระนาม “หน่อพุทธางกูร” และย้ายไปประทับที่กรุงศรีอยุธยา ส่วน “พระเฑียรราชา” (ศรัณยู วงศ์กระจ่าง) และ “พระสุริโยไท” (คุณหญิง ม.ล. ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี) พร้อมพระโอรสและธิดารวม 5 พระองค์ ประทับที่วังชัย 5 เดือนต่อมา เมื่อ “สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร” สวรรคต “พระไชยราชา” (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ จากนั้นไม่นาน “ท้าวศรีสุดาจันทร์” (ใหม่ เจริญปุระ) ได้มีความสัมพันธ์กับ “ขุนชินราช” (จอนนี่ แอนโฟเน) ก่อนจะลอบวางยาพิษ “พระไชยราชา” ด้าน “พระเฑียร” ทรงลาผนวช และได้ถูกให้ลาสิกขาเพื่อครองราชย์แทน ทรงพระนามว่า “พระมหาจักรพรรดิ” ระหว่างนั้นฝั่งพม่า นำทัพโดย “ตะเบงชเวตี้” (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) มายังอยุธยา จนเกิดเป็นสงครามยุทธหัตถี ที่ ทุ่งมะขามหย่อง โดยเป็นเหตุให้ “พระสุริโยไท” ที่ร่วมรบในครั้งนั้นสิ้นพระชนม์บนคอช้าง

ผู้กำกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
คะแนน IMDb6.5
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=Pifp1zWKCCY
3. บางระจัน

3. บางระจัน

“บางระจัน” เป็นหนังอิงประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่ง ที่นอกจากจะเป็นที่รู้จักของคนไทยแล้ว ยังเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ทำรายได้สูงถึง 150 ล้านบาท นอกจากนี้ยังถูกนำมาสร้างเป็นละคร รวมถึงเพลงที่ขับร้องโดย วง คาราบาว และหนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ปลุกใจให้รักชาติ และเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนไทย โดยมีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย และทำให้คนดูได้ตื่นเต้นไปกับฉากสู้รบแบบไทยๆ นอกจากนี้หนังเรื่อง “บางระจัน” ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ จาก หอภาพยนตร์ ในปี พ.ศ.2558 อีกด้วย 

3. บางระจัน 02
3. บางระจัน 03
3. บางระจัน 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวเมื่อครั้ง “พระเจ้ามังระ” กษัตริย์พม่าส่งกองทัพมาบุกกรุงศรีอยุธยา จนต้องมาเจอกับเหล่าชาวบ้านสะกัดกั้นไว้ หลังจากนั้นเหล่าชาวบ้านก็มารวมตัวกันที่บ้านบางระจัน โดยมี “พ่อแท่น” (ชุมพร เทพพิทักษ์) ผู้อาวุโสที่สุดเป็นแกนนำ พร้อมด้วย “อ้ายจัน หนวดเขี้ยว” (จรัล งามดี), อ้ายอิน (วินัย ไกรบุตร) พรานขมังธนู และ “อ้ายทองเหม็น” (บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นกำลังสำคัญในการที่จะต่อสู้กับเหล่าทหารพม่า ในเวลาต่อมา “อ้ายอิน” พร้อมพวกบุกเข้าไปค่ายทหารพม่า พอทหารพม่ารู้ก็พาพวกบุกมาที่ค่ายบางระจันสร้างความเสียหายขึ้นมากมาย เลยทำให้ชาวบ้านบางระจันต้องยอมพลีชีพเพื่อไม่ให้ทหารพม่าบุกเข้าถึงกรุงศรีอยุธยาได้ หลังจากที่ขอความช่วยเหลือไปที่กรุงศรีอยุธยาแต่ไม่เป็นผล 

ผู้กำกับธนิตย์ จิตนุกูล
คะแนน IMDb6.7
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.dailymotion.com/video/xsayuj
4. บางระจัน 2

4. บางระจัน 2

“บางระจัน 2” ถึงแม้ว่าในภาคที่ 2 นี้ จะเป็นเรื่องที่เขียนมาเพิ่มเพื่อสร้างสีสันให้กับหนัง เป็นเรื่องหลังจากที่ค่ายบางระจันแตกไปแล้ว ซึ่งในภาคนี้เน้นหนักไปที่บทของ “หลวงพ่อธรรมโชติ” ที่รับบทโดย “ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง” ที่หนีมาบวชที่เขานางบวช และที่นี่ยังเป็นที่กำเนิดนักรบใหม่ๆ อีกมากมาย  และในภาคนี้ก็ยังคงเน้นไปที่เรื่องความสามัคคีของคนไทย (ที่เหมาะมากกับยุคปัจจุบัน) เรียกว่า “บางระจัน 2” อาจจะไม่ได้มีความแปลกและแตกต่างจากภาคแรกสักเท่าไหร่ แต่โดยรวมก็ไม่ได้ทำให้คนดูผิดหวังแม้แต่น้อย 

4. บางระจัน 2 02
4. บางระจัน 2 03
4. บางระจัน 2 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวหลังจากที่กลุ่มนักรบบางระจันได้แพ้หลังจากต่อสู้กับกองทัพพม่า จึงทำให้หลังจากนั้นเหล่าชาวบ้าน ก็รวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับกองทัพทหารพม่าที่พร้อมจะเข้ามารุกรานทุกเมื่อ ถึงแม้ว่าอยุธยาเกิดความแตกแยกอยู่ขณะนั้น จึงทำให้ชาวบ้านรวมตัวกันต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง เลยทำให้กองทัพทหารพม่านั้นเต็มไปด้วยอุปสรรค โดยในครั้งนี้ได้ “หลวงพ่อธรรมโชติ” นำชาวบ้านมาเป็นนักรบ คอยซุ่มโจมตีทหารพม่า และเพื่อช่วยเหลือเหล่าเชลยที่ถูกจับตัวไป หลังจาก “สุกี้แม่ทัพพม่า” (จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ) รู้เรื่องก็สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก  รวมตัวทหารไล่ฆ่าชาวบ้านทุกคนที่เข้าร่วมรบในครั้งนี้ โดยมีชาวบ้านบางคนยอมรับเงินทองเพื่อยอมเผยความลับของเหล่าชาวบ้าน จนทำให้กองทหารพม่าปิดล้อมไว้ได้ 

ผู้กำกับธนิตย์ จิตนุกูล
คะแนน IMDb5.5
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=niw_FzWvEWQ
5. ม้ง สงครามวีรบุรุษ

5. ม้ง สงครามวีรบุรุษ

“ม้ง สงครามวีรบุรุษ” เป็นหนังไทยอิงประวัติศษสตรต์อีกเรื่องที่ปลุกคนไทยให้รักชาติได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเป็นการหยิบเอาเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ จากสมรภูมิเขาค้อ เมื่อ พ.ศ.2511 มาสร้างเป็นหนัง แม้ว่าจะเป็นหนังไทยนอกกระแส แต่เรื่องนี้กลับถูกยกย่องในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่สหรัฐอเมริกา ว่าเป็น Best of the Festival พร้อมกับคำชมเชยมากมาย รวมถึงเหล่านักแสดง ไม่ว่าจะเป็น “อัค-อัครัฐ นิมิตชัย”, “โบวี่-อัฐมา ชีวนิชพันธ์”, “สรพงษ์ ชาตรี”, โชคชัย เจริญสุข” ฯลฯ ที่มาทำให้หนังเรื่องนี้ลงตัวสุดๆ 

5. ม้ง สงครามวีรบุรุษ 02
5. ม้ง สงครามวีรบุรุษ 03
5. ม้ง สงครามวีรบุรุษ 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวเมื่อ “ผู้พันเกรียงไกร” (สรพงษ์ ชาตรี) ได้ช่วยเหลือ ด.ช.เก๊ง ที่กำลังอยู่ท่ามกลางกองเพลิง ขณะที่เขาเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ปราบคอมมิวนิสต์ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ทำให้ “ผู้พันเกรียงไกร” ต้องสูญเสีย “ร้อยเอกสุพจน์” (เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์) เพื่อนรุ่นน้อง ด้วยฝีมือพ่อของ ด.ช.เก๊ง หลังจากนั้นเขาก็รับเลี้ยงเด็กชายหลังจากที่เป็นกำพร้า จากนั้น 15 ปีต่อมา “เก๊ง” หรือ “ร้อยเอกทรงเกียรติ” (อัครัฐ นิมิตชัย) ได้ถูกส่งไปรบที่เขาค้อ ส่วน “อารียา” (อัฐมา ชีวนิชพันธ์) ลูกสาว “ร้อยเอกสุพจน์” จบหมอจากต่างประเทศ ได้เดินทางมาที่เขาค้อเพื่อตามหาศพพ่อ จนกระทั่งต้องเข้ามาช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ

ผู้กำกับ1.เสรี พงศ์นิธิ2.เจมมี่ ว่างลี
คะแนน IMDb7.2
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=FszWNAomnrQ
6. คนไททิ้งแผ่นดิน

6. คนไททิ้งแผ่นดิน

“คนไททิ้งแผ่นดิน” เป็นหนังอิงประวัติศาสตร์อีกเรื่องที่กล่าวถึงบรรพบุรุษของไทย และเป็นการรวมตัวกันเพื่อต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองหลังจากถูกกลุ่มชนฮานรุกราน จึงทำให้เราคนรุ่นหลังเห็นถึงความเสียสละและความสามัคคีของคนกลุ่มหนึ่งที่มีมากมายเสียจนเทียบไม่ได้กับอะไร แถมเรื่องนี้ผู้กำกับ “ต๊ะ-นิรัตติศัย กัลย์จาฤก” ยังใช้เวลาในการสร้างนานถึง 7 ปี พร้อมทั้งรีเสิร์ชข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดยิบ เลยทำให้พอหนังเรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์ก็ออกมาดีสมความตั้งใจ เรื่องราวสนุกสนานแต่แฝงไว้ด้วยความดราม่า ที่ทำให้คนดูนั้นถึงขั้นต้องเสียน้ำตากันเลยทีเดียว 

6. คนไททิ้งแผ่นดิน 02
6. คนไททิ้งแผ่นดิน 03
6. คนไททิ้งแผ่นดิน 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวตอนที่ “ลิบอง” (อัศวิน เมืองสุวรรณ) ทหารเอกของฮาน ใช้กำลังลวนลาม “บัวคำ” (ซาร่า เล็กจ์) หญิงไทชาวลือ น้องสาวช่างตีเหล็กฝีมือดีอย่าง “ลำพูน” (ธันญ์ ธนากร) แต่โชคดีที่ “เฟเสียน” (ยังเติร์ก กัลย์จาฤก) ทหารฮานคนรักของเธอมาช่วยไว้ทัน และยึดดาบของ “ลิบอง” มอบให้ “เตียวเหลียง” ซึ่ง “เตียวเหลียง” ได้พิจารณาโทษให้ “ลิบอง” ถูกเนรเทศในทันที ด้าน “ลิบุ๋น” (อรรถชัย อนันตเมฆ) ที่เป็นผู้สำเร็จราชการโกรธจัด เลยประกาศให้ปลด “เตียวเหลียง” ออกจากตำแหน่ง และให้น้องชายของตนขึ้นรับตำแหน่งแทน พร้อมทั้งบังคับให้คนไทกราบไหว้ตนและภรรยาแทน พร้อมทั้งห้ามให้ฮานกับไทรักกัน รวมถึงมีอาวุธไว้ในครอบครอง แม้แต่มีดที่ใช้ในครัวเรือนเองก็ตาม เพราะเหตุการณ์นี้สร้างความเจ็บปวดให้กับคนไทเป็นอย่างมาก

ผู้กำกับนิรัตติศัย กัลย์จาฤก
คะแนน IMDb5.2
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=GXWA3FyOhrI
7. ซามูไร อโยธยา

7. ซามูไร อโยธยา

“ซามูไร อโยธยา” ในเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยามีชาวญี่ปุ่นมาตั้งรกรากในไทยจำนวนมาก ถึงขนาดตั้งเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่นขึ้นมาจนเป็นที่รู้จักไปทั่ว และในเรื่องนี้ทำให้ได้รู้จักหนุ่มชาวญี่ปุ่น นาม “ยามาดะ” ที่ร่วมรบกับนักรบไทยเพื่อต่อสู้กับหงสาวดี ซึ่งนอกเหนือจากนั้นก็จะได้เห็นการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมไทยและญี่ปุ่น ที่ในสมัยนั้นเป็นไปได้ย่างกลมกลืน แต่ที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นที่น่าสนใจน่าจะเป็นภาพที่ถูกนำเสนอออกมาได้อย่างสวยงามและละมุนเป็นที่สุด รวมถึงลีลาแม่ไม้มวยไทยที่คนไทยคุ้นตาเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นการผสมผสานกันได้อย่างลงตัวมากๆ 

7. ซามูไร อโยธยา 02
7. ซามูไร อโยธยา 03
7. ซามูไร อโยธยา 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวของ “ยามาดะ นางามาสะ” (เซกิ โอเซกิ) ซามูไรชาวญี่ปุ่นที่เคยร่วมรบในสงครามยุทธหัตถีมาแล้ว จนฝีมือการต่อสู้นั้นเป็นที่เลื่องลือ แต่แม้หลังสงครามจบแล้ว อโยธยาก็ไม่ได้กลับมาสงบดังเดิม เพราะมีกลุ่มคนร้ายแต่งกายเป็นทหารหงสาวดีเข้ามาปล้นสะดมชาวสยาม ทำให้ “ยามาดะ” ถูกมอบหมายจากหัวหน้าหมู่บ้านญี่ปุ่นให้ตามหาคนร้าย ซึ่งเขากลับมารู้ความจริงว่าคนร้ายก็คือ “คุโรดะ” รองหัวหน้าหมู่บ้านญี่ปุ่น เลยทำให้ “ยามาดะ” ถูกสะกดรอยตามและทำร้ายเกือบปางตาย ดีที่ได้ชาวบ้านหมู่บ้านป่าแก้วดูแลจนหายดี และที่หมู่บ้านนี้ “ยามาดะ” เห็นศิลปะแม่ไม้มวยไทยก็อยากจะฝึกบ้างเลยขอให้ พระครู (สรพงษ์ ชาตรี) สอนมวยให้ ซึ่ง “ยามาดะ” ยอมทำตามทุกอย่าง เพราะตั้งใจนำวิชานี้ไปล้างแค้นแก่ “คุโรดะ” ต่อไป 

ผู้กำกับนพพร วาทิน
คะแนน IMDb5.9
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=pPLgDA9hXoU
8. สยามยุทธ

8. สยามยุทธ

“สยามยุทธ” ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้ออกแนวแอ็คชั่น เลือดสาดเหมือนหนังแนวแอ็คชั่น สู้รบเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องภาพ แสง สี เรื่องนี้เขาก็ทำเอาไว้ดีมากๆ และที่จะได้เห็นแบบเต็มๆ คือ คิวบู๊ต่างๆ อย่าง มวยไชยา ที่ถูกออกแบบมาได้อย่างดีเยี่ยมงดงาม โชว์ความแข็งแกร่ง หนักแน่นของนักรบสมัยก่อนไว้ได้อย่างเยี่ยมยอด ส่วนใครที่กลัวว่าหนังแนวนี้จะดูยาก ไม่ต้องกังวลไปแม้ว่าใครจะไม่เคยศึกษาประวัติมาก่อนก็สามารถดูเรื่องนี้ได้เลย เพราะเขาเล่าเรื่องเป็นภาพให้สามารถดูแล้วเข้าใจได้ง่ายๆ 

8. สยามยุทธ 02
8. สยามยุทธ 03
8. สยามยุทธ 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวเมื่อครั้งที่มีการเข่นฆ่าปล้นชาวบ้าน ด้วยฝีมือของ “ขุนราม” ผู้ที่ต้องการที่จะครอบครองแผ่นดิน “ทัพ” (ธันญ์ ธนากร) และ “อิน” สองพี่น้อง ได้มาเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี พร้อมทั้ง “ขุนราม” ได้ป้ายความผิดไปให้แก่  “สิน” (เก่ง กฤษฎ์ศิรวัชร) ด้าน “ทัพ” เห็นถึงความไม่ชอบธรรมจึงเดินทางไปเมืองจันทบูร จนทำให้ตัวเขาเข้าไปอยู่ในวงล้อมศัตรู ดีที่ได้ “บุญมา” (ธนาวุฒิ เกสโร) ขุนศึกของ “สิน” ช่วยเหลือไว้ได้ทัน “ทัพ” จึงตกลงใจเข้าร่วมกับ “สิน” เพื่อต้องการลงโทษ “ขุนราม” ด้าน “ขุนราม” นั้นเห็น “สิน” เป็นศัตรูอยู่แล้ว จึงพยายามป้ายความผิดและล่อให้ “สิน” ออกมาเพื่อกำจัดให้สิ้นซาก พร้อมยึดเมืองมาเป็นของตนให้ได้ 

ผู้กำกับธนาวุฒิ เกสโร
คะแนน IMDb  5.6
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=gFUhAY15WbM
9. ปืนใหญ่จอมสลัด

9. ปืนใหญ่จอมสลัด

“ปืนใหญ่จอมสลัด” ความพิเศษของเรื่องนี้อยู่ที่ได้นักเขียนรางวัลซีไรต์อย่าง “วินทร์ เลียววาริณ” มาร่วมเขียนบทหนังในครั้งนี้ด้วย และใครที่เคยติดตามผลงานการเขียนของเขาก็ย่อมรู้ดีว่าเป็นงานเขียนที่ลุ่มลึกและหักมุมในตอนท้ายเสมอ บวกกับได้ผู้กำกับมือทอง “อุ๋ย-นนทรี นิมิบุตร” ที่เคยฝากผลงานกำกับหนังไทยมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง แต่ดูเหมือนว่าเนื้อหาที่มากเกินไป และซับซ้อนไปสักหน่อยเลยทำให้คนดูค่อนข้างเหนื่อยๆ ไปสักนิดในช่วงแรก แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ต้องร้องว้าว! คือ ความอลังการงานสร้างของคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ที่จัดหนัก จัดเต็ม ชนิดที่ว่าทำให้หนังออกแนวแฟนตาซีได้ไม่ยาก บวกกับได้เพลงประกอบที่ดูเข้ากันๆ กับหนังเรื่องนี้ ยิ่งเป็นการเพิ่มอรรถรสได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว  

9. ปืนใหญ่จอมสลัด 02
9. ปืนใหญ่จอมสลัด 03
9. ปืนใหญ่จอมสลัด 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวเมื่อครั้ง “องค์หญิงฮีเจา” (จารุณี สุขสวัสดิ์) ได้ขึ้นเป็นรายาสตรีองค์แรกแห่งลังกาสุกะ ที่ถือเป็นรัฐอิสระแต่ถูกล้อมไว้ด้วยกบฏและโจรสลัดจำนวนมาก วันหนึ่งปราชญ์แห่งอาวุธชาวดัตซ์ ได้เดินทางมาพร้อมกับ “ลิ่มเคี่ยม” (จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม) ผู้ประดิษฐ์ปืนชาวจีน มาถวายปืนใหญ่แด่ “องค์หญิงฮีเจา” แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่กลุ่มโจรสลัด “เจ้าชายราไว” (เอก โอรี) และ “อีกาดำ” (วินัย ไกรบุตร) ซุ่มโจมตี เพราะเหตุการณ์นี้ทำให้ “ลิ่มเคี่ยม” ได้ช่วยเหลือ “ปารี” (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ที่ลอยคออยู่ในทะเลไว้ได้ ในเวลาต่อมา “องค์หญิงฮีเจา” ได้ตามหา “ลิ่มเคี่ยม” จนเจอและได้ให้สร้างมหาปืนใหญ่ขึ้นมา แต่ไม่ทันจะสร้างเสร็จก็เกิดสงครามขึ้นที่รัฐลังกาสุกะขึ้น และดูเหมือนว่ากำลังจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการรบครั้งนี้ด้วย 

ผู้กำกับนนทรีย์ นิมิบุตร
คะแนน IMDb5.6
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=x4TiN1Qzo6E
10. ตุ๊ดตู่กู้ชาติ

10. ตุ๊ดตู่กู้ชาติ

“ตุ๊ดตู่กู้ชาติ” ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะขายขำซะส่วนใหญ่ เพราะได้เหล่านักแสดงที่มาร่วมเรียกเสียงหัวเราะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หม่ำ จ๊กมก, ติ๊ก กลิ่นสี, โก๊ะตี๋ อารามบอย, จิ้ม ชวนชื่น ที่ล้วนแล้วแต่เป็นปรมาจารย์ด้านตลกเลยก็ว่าได้ ยิ่งเรื่องต้องมารับบทสาวๆ หน่อยยิ่งถนัด ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะเราเคยเห็นทั้งหมดแต่งหญิงกันมาแล้วในหนังเรื่องอื่นๆ เลยทำให้คาแรกเตอร์แนวนี้เห็นกันจนชินตาซะแล้ว แต่ก็ทำให้มีการถูกเปรียบเทียบกับเรื่องอื่นๆ ว่าบทสาวๆ แบบนี้เคยเล่นกันไว้สุดกว่านี้มาก เอาเป็นว่าถ้าดูเพื่อคลายเครียดล่ะก็ หนังเรื่องนี้เหมาะเลยเพราะดูแล้วเรียกเสียงหัวเราะได้ และคลายเครียดไปในตัวได้อีกด้วย 

10. ตุ๊ดตู่กู้ชาติ 02
10. ตุ๊ดตู่กู้ชาติ 03
10. ตุ๊ดตู่กู้ชาติ 04

เรื่องย่อ

เป็นเรื่องราวของหมู่บ้านคุ้งระกา โดยชาวบ้านที่นี่ใช้ชีวิตทำไร่ ทำนา เลี้ยงสัตว์ และมีกลุ่มชายไทยหัวใจหญิง นำโดย “ป้าแฟง” (หม่ำ จ๊กมก) พร้อมด้วย “ทองหอม” (ติ๊ก กลิ่นสี), “ทองก้อน” (จิ้ม ชวนชื่น), “เดือน”(โก๊ะตี๋ อารามบอย) และ “สร้อย” (บิว ขาวคง) ที่มักจะสร้างสีสันแลเสียงหัวเราะให้กับคนในหมู่บ้านได้เป็นอย่างดี อยู่มาวันหนึ่งทัพของ “มังตราบุเรง” (ฟิล์ม รัฐภูมิ) คิดจะยกทัพมาตีเมืองอโสรยา แต่จำเป็นต้องผ่านหมู่บ้านคุ้มระกาก่อนทำให้ต้องตกอยู่ในอันตราย โดยมีกลุ่มของ “ป้าแฟง” อาสาสู้เพื่อชาติ ซึ่งทั้งหมดปลอมตัวเป็นทหารของทัพยโสธาวดี เพื่อจะแฝงตัวเข้าไปให้ถึงตัว “มังตราบุเรง” แต่ดูเหมือนว่าเรื่องจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว 

ผู้กำกับพชร์ อานนท์
คะแนน IMDb3.2
วีดีโอตัวอย่างhttps://www.youtube.com/watch?v=Ejx0_dbRH6M

ครบแล้วทั้ง 10 อันดับหนังสงครามไทยที่ดีต่อใจ..ไม่ดูไม่ได้แล้ว เรียกว่าเป็นหนังสงครามแบบไทยๆ ที่คนดู ดูแล้วอินได้ไม่ยาก แถมยังได้ความรู้ในเชิงประวัติศาสตร์ผ่านแผ่นฟิล์มอีกด้วย รวมถึงยังได้รับความสนุกสนานและได้แง่คิดจากการดูหนัง น่าจะมีสักเรื่องที่คุณดูแล้วรู้สึกประทับใจไม่มากก็น้อยนะ

เครดิตภาพ : www.sahamongkolfilm.com, www.thairath.co.th, www.fapot.or.th, www.adintrend.tv, www.sanook.com, www.mgronline.com, www.movie.mthai.com, www.mthai.com, www.themoviedb.org, www.wuxiacinema.wordpress.com, www.pantip.com

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> น้ำเต้าปูปลาออนไลน์

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG

Tag
5 อันดับหนังซอมบี้หลากอารมณ์ (1) 5 อันดับหนังญี่ปุ่น (1) 5 อันดับหนังดราม่า (1) 5 อันดับหนังน่าดู (1) 5 อันดับหนังผู้หญิงสายบู๊ (1) 5 อันดับหนังรัก (2) 5 อันดับหนังสยองขวัญ (3) 5 อันดับหนังอนิเมชั่นภาคต่อ (1) 5 อันดับหนังอนิเมชั่นไร้พิษภัย (1) 5 อันดับหนังฮีโร่ผู้หญิง (1) 5 อันดับหนังเกาหลี (4) 5 อันดับหนังเกาหลีสยองขวัญ (1) 5 อันดับหนังเกี่ยวกับพระ (1) 5 อันดับหนังเกี่ยวกับรถไฟ (1) 5 อันดับหนังเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (2) 5 อันดับหนังเอเชีย (2) 5 อันดับหนังเอเลี่ยน (1) 5 อันดับหนังแนวเอาตัวรอด (1) 5 อันดับหนังแม่เลี้ยงเดี่ยว (2) 5 อันดับหนังไตรภาค (1) 5 อันดับหนังไทยสยองขวัญนร.-นศ. (2) 5 อันดับหนังไทยสุดซึ้ง (1) 5 อันดับหนังไทยแนวกีฬา (1) 5 อันดับหนังไทยแนวนักเรียน (1) 5 อันดับหนังไทยแนวเดินทาง (1) 5 อันดับหนังไวรัส (1) 10 อันดับหนังจีน (1) 10 อันดับหนังญี่ปุ่นแนวอบอุ่น (1) 10 อันดับหนังตลก (1) 10 อันดับหนังตลกจีน (1) 10 อันดับหนังตลกญี่ปุ่น (1) 10 อันดับหนังผจญภัย (1) 10 อันดับหนังผีจีนในตำนาน (1) 10 อันดับหนังผีญี่ปุ่น (1) 10 อันดับหนังสงครามไทย (1) 10 อันดับหนังไทยในอดีต (1) 10หนังแอคชั่นไทยในตำนาน (1) 10อันดับหนังตลกเกาหลี (1) 10อันดับหนังตลกไทย (1) 10อันดับหนังผีเกาหลี (1) 10อันดับหนังผีไทยในตำนาน (1) 10อันดับหนังเกาหลีที่ไม่ควรพลาด (1) 10อันดับหนังไทยฟีลกู๊ด (1) รวมรีวิวหนัง (2) หนังไทย (2)