ถ้าพูดถึงสิ่งที่ต้องทำสักครั้งในชีวิต หลายคนคงมีลิสยาวเหยียด ไม่ว่าจะเป็น เที่ยวรอบโลก, กินอาหารแปลก, แต่งตัวแบบที่ไม่เคยแต่งมาก่อน รวมถึงการดูหนังที่มีเนื้อหาดีๆ เหมือนหนังที่นำมาฝากกันในเรื่องนี้ อย่าง 5 อันดับหนังไทยเนื้อหาดี..ที่ต้องดูสักครั้งในชีวิต ที่บอกเลยว่ามีเนื้อเรื่องที่ดีแถมยังดูสนุกอีกด้วย จะรออะไรอยู่ล่ะ..ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีหนังเรื่องอะไรบ้าง
1. มหา’ลัย เหมืองแร่
“มหา‘ลัย เหมืองแร่” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ “อาจินต์ ปัญจพรรค์” ที่ขณะนั้นเขามีอายุแค่ 22 ปีเท่านั้น เป็นนิสิตชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่กลับถูกรีไทร์ทำให้เขาออกเดินทางสู่ภาคใต้ก่อนที่จะได้เข้าทำงานที่เหมืองกระโสม จ.พังงา โดยมี นายฝรั่ง เป็นคนรับเขาเข้าทำงาน และนับจากนั้นมาเขาก็ได้เรียนรู้งานต่างๆ ในเหมือง เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตปี 1 ใน มหา’ลัยเหมืองแร่แห่งนี้ ที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ชีวิตในแบบที่มหาวิทยาลัยไม่มีบอก
เรียกว่าเป็นหนังที่ขึ้นแท่นหนังไทยที่มีเนื้อหาดี แม้ว่า ณ ตอนนั้นจะทำรายไม่มากสักเท่าไหร่ แต่หลายคนที่ได้ดูต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดีจริงแบบไม่จกตา เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของ “อาจินต์ ปัญจพรรค์” ศิลปินแห่งชาติที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัยของเขา เล่าถึงการใช้ชีวิตที่ไม่ได้ง่ายและสวยงาม แต่ที่เหมืองแร่แห่งนี้ก็สอนอะไรมากกว่าที่เคยเป็น อีกทั้งตัวหนังยังสอดแทรกแง่คิด ประสบการณ์ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ สอนให้รู้จักความอดทน, สอนให้รู้จักการมีความรับผิดชอบ, สอนให้เป็นมืออาชีพในการทำงาน, เห็นถึงมิตรภาพที่สวยงาม รวมถึงสร้างความอบอุ่นหัวใจได้อย่างน่าประหลาด นอกจากนี้เรายังได้เห็นถึงบรรยากาศเหมืองแร่และความเป็นธรรมชาติในช่วงปี 2492 เห็นวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของพี่น้องทางภาคใต้ ที่หนังถ่ายทอดออกมาได้อย่างละมุนมากทีเดียว
ผู้กำกับ | จิระ มะลิกุล |
คะแนน IMDb | 8.1 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=wrFGBdjL7pY |
2. ฉลาดเกมส์โกง
“ฉลาดเกมส์โกง” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ “ลิน” นักเรียนทุนเกรด 4.0 ที่เริ่มต้นด้วยการช่วย “เกรซ” และ “พัฒน์” ในการให้ลอกข้อสอบในห้องเรียนเพื่อแลกกับค่าตอบแทน จนกลายเป็นการลอกข้อสอบให้นักเรียนในโรงเรียนเพื่อแลกกับค่าตอบแทนที่สูงกว่าเดิม ก่อนที่จะขยับมาเป็นการโกงข้อสอบที่ใช้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยระดับโลก โดยมี “พัฒน์” และ “เกรซ” ช่วยหาลูกค้าให้ และ “ลิน” ก็ต้องเดินทางไปสอบในประเทศที่เวลาเร็วกว่าที่ไทย เพื่อบอกคำตอบกลับมาที่ไทย โดยมี “แบงค์” เด็กนักเรียนทุนคู่แข่งของ “ลิน” ร่วมขบวนการในครั้งนี้ด้วย แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ง่ายเหมือนอย่างการลอกข้อสอบในห้องเรียนซะแล้ว
แม้ว่าประเด็นหลักๆ ของเรื่องจะเป็นแค่การลอกข้อสอบและการโกงข้อสอบเท่านั้น แต่หนังก็สามารถขยายความเรื่องราวตรงนี้ออกมาได้อย่างน่าตื่นเต้นและน่าติดตามไม่น้อย ใครจะคาดคิดว่าการแค่โกงข้อสอบในห้องเรียนจะขยายผลไกลถึงระดับโลกได้ แต่ตรงนี้ทำให้หลายคนคิดว่าการโกงแค่เล็กน้อยไม่มีผล แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นการโกงเล็ก หรือโกงใหญ่ ก็เหมือนเป็นการบ่มเพาะนิสัยนี้ในวันที่โตเป็นผู้ใหญ่ได้เหมือนกัน หนังทำออกมาแบบเรียบง่านแต่วิธีการเดินเรืองนั้นก็ทำให้คนดูได้ลุ้นไปกับตัวละครนั้นๆ ด้วย ถือว่าแค่ประเด็นเล็กๆ สามารถดึงดูดคนดูให้ดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แถมตอนจบยังพีคในพีคอีกต่างหาก
ผู้กำกับ | นัฐวุฒิ พูนพิริยะ |
คะแนน IMDb | 7.6 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=JcUf9ANCpNY |
3. HOMESTAY
“HOMESTAY” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ “มิน” เด็กหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในตู้เก็บศพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เขารับรู้แค่เพียงว่ามีชายคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า “ผู้คุม” บอกเขาถึงการเป็นวิญญาณเร่ร่อน ที่ให้โอกาสกลับมาเกิดใหม่ในร่างเด็กม.ปลาย ทำให้เขาต้องมาอยู่ในร่างของ “มิน” และครอบครัวใหม่ เพื่อนใหม่ ก่อนที่จะได้รู้จักความรักเมื่อได้มาพบกับ “พาย” พี่รหัส ที่ทำให้เขาอยากอยู่ในร่างนี้ตลอดไป
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง Colorful ของ “โมริ อิโตะ” นักเขียนชาวญี่ปุ่น ที่พอนำมาสร้างเป็นหนังไทยแล้วมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบสักเล็กน้อย โดยมีการเพิ่มเรื่องราวของ ครอบครัว, การสืบสวนสอบสวน และความระทึกขวัญใส่เข้าไปเพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสให้หนังดูมีเรื่องราวที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หนังยังให้แง่คิดถึงมุมมองการใช้ชีวิต ที่บางคนอาจมองว่าชีวิตตัวเองแย่ ไม่มีความสุข ปราศจากคนที่รัก แต่แท้จริงแล้วในเรื่องร้ายๆ ก็มักจะมีเรื่องดีๆ แฝงอยู่ในนั้นมากมาย เพราะแน่นอนว่าไม่มีใครพบเจอเรื่องร้ายๆ ไปได้ตลอด ซึ่งหนังก็พยายามทำให้เรื่องราวตรงนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเรายังได้เห็นคนวามแฟนตาซีในหนังเรื่องนี้บวกกับคอมพิวเตอร์กราฟิกต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างให้บรรยากาศในเรื่องออกมาดีและสมจริงมากยิ่งขึ้นด้วย
ผู้กำกับ | ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ |
คะแนน IMDb | 7.2 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=M5b3VGe4QsA |
4. มะลิลา
“มะลิลา” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ “เชน” ชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของสวนมะลิ ผู้ที่มีอดีตอันแสนเจ็บปวด และ “พิช” นักทำบายศรี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอดีตคนรักของ “เชน” ในวัยเด็ก ทั้งคู่โคจรมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ทั้งคู่ก็มีบาดแผลในอดีตด้วยกันทั้งนั้น ต่างก็พยายามเยียวยาความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้น และพยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่เคยสวยงามนี้ผ่านบายศรีที่งดงาม
มองเผินๆ อาจคิดว่าหนังเรื่องนี้มุ่งประเด็นไปที่ความรักของชายหนุ่มสองคนในเรื่องเท่านั้น แน่นอนว่าเรื่องราวความรักก็ยังถูกพูดถึงแต่ก็มีประเด็นเรื่องของการใช้ชีวิต และสัจธรรมของชีวิที่รวมอยู่ด้วยนอกเหนือความรัก โดยบอกเล่าผ่านบายศรีที่แสนงดงาม ถือว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังอาร์ตแบบเต็มตัว ด้วยการเล่าเรื่องราวที่ละเมียดละไม รวมถึงภาพที่สื่อออกมายังคงดูนั้นยังถือว่าเป็นภาพที่สวยงามดูละมุนตาเป็นอย่างมาก สิ่งที่ดีงามอีกอย่างหนึ่ง คือ การที่นำบายศรีมาเปรียบเทียบกับชีวิตของมนุษย์ ที่ดูแล้วบอกเลยว่าล้ำลึกและเป็นเรื่องที่คนดูคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน อีกทั้ง 2 นักแสดงอย่าง “เวียร์-ศุกลวัฒน์” และ “โอ-อนุชิต” เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือในการแสดง ที่ถูกเลือกให้มารับบทนี้ได้อย่างถูกต้อง เพราะเคมีทั้งคู่ทำให้คนดูอินไปกับ 2 ตัวละครนี้ได้อย่างง่ายดาย
ผู้กำกับ | อนุชา บุญยวรรธนะ |
คะแนน IMDb | 6.6 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=ucYuomgAX5U |
5. 4KINGS อาชีวะ ยุค 90’S
“4KINGS อาชีวะ ยุค 90‘S” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ ความขัดแย้งระหว่างนักเรียนช่างต่างสถาบัน อย่าง อินทรอาชีวศึกษา, เทคนิคบุรณพนธ์, เทคโนโลยีประชาชล และ กนกเทคโนโลยี ซึ่งทั้ง 4 สถาบันนี้ถือได้ว่าเป็นขาใหญ่ในสายอาชีวะ และเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมของวัยรุ่นตีกันได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเน้นหนักไปที่เหล่าวัยรุ่น 4 สถาบัน ที่ถือได้ว่าเป็นไม้เบื้อไม้เมา เจอกันทีไรเป็นต้องวางมวย ชกต่อยกันแทบทุกครั้ง หลายคนมองว่าเป็นหนังวัยรุ่นตีกันธรรมดา แต่ความน่าสนใจที่แฝงไว้ในหนังเรื่องนี้ คือ การสะท้อนปัญหาของสังคมไทยอีกด้านหนึ่งที่มีตัวของวัยรุ่นเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ คนดูจะได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของวัยรุ่นที่เดินทางสายอาชีวะ แม้ว่าเรื่องในหนังเราจะพบเจอได้ในชีวิตจริงก็ตาม แต่หนังก็ไม่ได้ส่งเสริมถึงความรุนแรงซะทีเดียว แต่หนังยังสะท้อนถึงผลของการกระทำเมื่อครั้งอยู่ในวัยที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่านนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อคนเหล่านี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วลองมองย้อนกลับว่าจะเห็นเองว่าสิ่งที่เคยทำไปนั้นถูกหรือผิด โดยที่ไม่ต้องมีใครมาชี้นิ้วบอกได้
ผู้กำกับ | พุฒิพงษ์ นาคทอง |
คะแนน IMDb | 6.3 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=_i3c8hnqAHM |
เป็นอย่างไรบ้างกับทั้ง 5 อันดับหนังไทยเนื้อหาดี..ที่ต้องดูสักครั้งในชีวิต หวังว่าคงถูกใจใครหลายคนนะ
เครดิตภาพ : www.th.wikipedia.org, www.filmsheets.com, www.posterman2000.com, www.minimore.com, www.nungdeedee.com, www.khaosod.co.th, www.majorcineplex.com, www.plotter.in.th บาคาร่าออนไลน์