พูดถึงธุรกิจหนังไทยในปี 2022 นี้ดูเหมือนว่าจะกลับมาคึกคักได้เหมือนเดิม เพราะเล่นซุ่มถ่ายทำและพร้อมฉายกันในปีนี้หลายต่อหลายเรื่อง วันนี้เลยขอรวบรวมมาฝากกัน กับ 5 อันดับหนังไทยฉายปี 2022..ดีจนอยากบอกต่อ ที่บอกเลยว่าแต่ละเรื่องนั้เนมีหมัดเด็ดที่ทำให้คนดูต้องอึ้งและทึ่งอย่างแน่นอน จะช้าอยู่ทำไมไปดูกันเล้ย!
1. ONE FOR THE ROAD วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ
“ONE FOR THE ROAD วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ” เป็นเรื่องราวของ “อู๊ด” ที่รู้ตัวเองว่าป่วยเป็นโรคร้ายและอาจจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ไม่นาน เขาเลยตัดสินใจชวน “บอส” เพื่อนรัก ให้ขับรถพาเขาไปเจอกับเหล่าแฟนเก่าที่เคยเลิกรากันไปแล้ว เพื่อที่เขาอยากจะขอบคุณและขอโทษพวกเธอเป็นครั้งสุดท้าย และอาจจะเป็นทริปสุดท้ายของ “อู๊ด” และ “บอส” ด้วยก็ได้
เรียกว่าหนังเรื่องนี้มีความพิเศษในตัวเองอย่างมากทีเดียว ตั้งแต่พล็อตเรื่องที่ถูกนำเสนอแม้ว่าจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่สามารถทำเรื่องธรรมดาแบบนี้ให้ออกมาพิเศษในสายตาคนดูได้ นอกจากนี้ยังได้ “หว่องกาไว” มาเป็นผู้อำนวยการสร้างอีก หลายคนที่เคยได้ดูผลงานของเขาจะรู้ว่าลายเส้นหนังจะออกมาแบบสวยงามและน่าประทับใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำออกมาดีงามทั้งภาพ องค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ที่ล้วนแล้วใส่ความละมุน รวมถึงการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านดนตรีที่ดูแล้วทำคนดูอินไปกับทุกฉากเลยทีเดียว
ผู้กำกับ | นัฐวุฒิ พูนพิริยะ |
คะแนน IMDb | 7.4 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=MdY6N-RTrPg |
2. บอกโลกให้รู้ว่ากูรักมึง
“บอกโลกให้รู้ว่ากูรักมึง” เป็นเรื่องราวของ “เข่ง” เด็กหนุ่มจากต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ และได้มาอยู่กับ “ไท” เพื่อนร่วมชั้น ซึ่ง “เข่ง” มีความฝันอยากไปเรียนต่อที่จีนเพราะอยากตามหาแม่ที่พลัดพรากกัน อยู่มาวันหนึ่ง “เข่ง” ได้เข้าไปช่วย “บ้ง” เด็กส่งยากที่ถูกขาใหญ่อย่าง “เฮียสง” ทำร้าย จนพวกขาใหญ่ตามไล่ล่าทั้งคู่ เพราะคิดว่าทั้งคู่รวมหัวกับซุกยาเสพติดไว้ จนทำให้ “เข่ง” ต้องหนีออกจากบ้านไปกับ “บ้ง” ทำให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกันมากขึ้น
เหมือนเป็นการกลับมาทวงบัลลังก์หนังวัยรุ่นอีกครั้งของ ผกก. “พชร์ อานนท์” หลังจากที่ส่งหนังตลกลงจอมากมาย มาเรื่องนี้ทำหนังแนวดราม่าแอ็คชั่นสะท้อนสังคม แม้ว่าหนังจะสื่อไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายด้วยกันเองแต่ก็ถือว่านำเสนอในมุมที่ดูแล้วสร้างสรรค์ไม่น้อย นอกจากนี้โทนของหนังเรื่องนี้ยังถูกทำออกมาแบบในยุค 90 เรียกว่าเป็นแนวสร้างชื่อของผกก. “พชร์” อีกด้วย เลยทำให้หนังมีความโดดเด่นทั้งพล็อตเรื่อง, ฉาก รวมถึงนักแสดง แม้จะมีนักแสดงวัยรุ่นมากเหลือเกินแต่ก็เป็นการกระจายบทออกมาได้เป็นอย่างดี
ผู้กำกับ | พชร์ อานนท์ |
คะแนน IMDb | 7.5 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=LVK5fAvfSG0 |
3. FAST & FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ
“FAST & FEEL LOVE เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ” เป็นเรื่องราวความฝันของ “เกา” ที่ตั้งแต่เด็กๆ เขาฝันอยากเป็นนักกีฬา Sport Stacking ที่เก่งที่สุดในโลก ซึ่งต่างจาก “เจ” เพื่อนร่วมโรงเรียนที่เป็นลูกครึ่ง ที่เก่งแค่วิชาภาษาอังกฤษ และเธอฝันอยากเป็นแค่คนธรรมดา ทั้งคู่คบหาเป็นแฟนกันส่วน เกา” ก็มุ่งมั่นที่จะเดินตามความฝันเข้าแข่งขันจนสามารถคว้าแชมป์มาได้ ก่อนจะถูกเด็กคนหนึ่งโค่นแชมป์ และตัวเขาต้องเจอปัญหาชีวิตมากมายที่วัยผู้ใหญ่ต้องเจอ
ความสนุกของหนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นถึงความตลกร้ายของหนังและของ 2 ตัวแสดงอย่าง “เกา” และ “เจ” รวมถึงการเสียดสีหนังดังต่างๆ ที่ทำให้คนดูๆ แล้วเกิดความสนุกสนานและคิดภาพตามไปด้วย เพราะเรื่องราวความฝันของทั้งคู่นั้นแตกต่างกันสิ้นเชิงและแน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิ์จะฝัน รวมถึงหนังได้สะท้อนปัญหาของการใช้ชีวิตคู่ผ่านตัวเด็กเนิร์ดๆ อย่าง “เกา” ที่วันๆ โฟกัสที่การเล่นกีฬาสแต็ค หรือ กีฬาเรียงแก้ว จนเมื่อมาถึงวัยที่ต้องโตเป็นผู้ใหญ่เขาต้องเตรียมรับมือกับปัญหาที่เข้ามา ซึ่งตัวหนังและตัวของนักแสดงสะท้อนเรื่องราวตรงนี้ได้อย่างดีงามและเห็นภาพสุดๆ
ผู้กำกับ | นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ |
คะแนน IMDb | 7.4 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=hUqDKKIIm5g |
4. เวลา
“เวลา” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “ANATOMY OF TIME” เป็นเรื่องราวของ “แหม่ม” สาวชนบทที่มีพ่อเป็นช่างนาฬิกา และในช่วงเวลานั้นเกิดความตึงเครียดจากเผด็จการทางการทหารและคอมมิวนิสต์ ทำให้เธอต้องไปข้องแวะกับชายหนุ่ม 2 คน คนหนึ่งเป็นคนขับรถลาก อีกคนเป็นนายทหารผู้โหดเหี้ยม ที่ต่อมากลายเป็นสามีของเธอ และ 50 ปี ต่อมาเมื่อเธอเข้าสู่วัยชราและต้องดูแลสามีในช่วงสุดท้ายของชีวิต ทำให้เธอได้มองย้อนกลับไปในอดีตที่เต็มไปด้วยความสุข, ความขมขื่น และความสูญเสีย
หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่หนังในกระแสหรือหนังตลาดมากนัก แต่เรื่องราวและภาพที่ถูกนำเสนอนั้นกลับสวยงาม และเมื่อได้ไปฉายในงาน Venice Film Festival 2019 เวนิสฟิล์มเฟสติวัล เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ก็ถูกใจกรรมการจนคว้ารางวัล Bisato Award หรือ Best Original Screenplay บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม มาได้ แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้หวือหวาและมีเนื้อหาเรียบง่าย แต่ในความเรียบง่ายนั้นก็แฝงแง่คิดให้คนดูได้เห็นถึงความสำคัญของเวลา ที่แม้ว่าเราจะไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ แต่เราก็อาจจะยิ้มหรือร้องไห้ได้กับช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้วในอดีต
ผู้กำกับ | จักรวาล นิลธำรงค์ |
คะแนน IMDb | 6.5 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=HAsYttAN60c |
5. แดง พระโขนง
“แดง พระโขนง” เป็นเรื่องราวหลังจากที่ผีนางนาก แห่งพระโขนง ได้ถูกปราบแล้วจนทำให้ชาวบ้านอยู่กันอย่างมีความสุข อีก 10 ปี ต่อมาความสยองขวัญก็กลับมาสู่พระโขนงอีกครั้ง เมื่อผีเด็กออกอาละวาดหลอกชาวบ้านไปทั่ว ซึ่งหลายคนเชื่อว่าผีเด็กที่ว่านี้คือ “ไอ้แดง” ลูกของผีนางนาก จนทำให้ชาวบ้านทั้งพระโขนงต้องกลับมาใช้ชีวิตอย่างหวาดผวาอีกครั้ง
เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่สามารถดูได้ทุกวัย และมีทั้งความตลกสนุกสนาน, เศร้า และฉากสยองๆ ที่ทำให้คุณต้องสะดุ้ง แต่ก็ถือว่าโดยรวมเน้นไปที่ความฮาและความน่ารักของเหล่านักแสดงเด็ก ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้เป็นอย่างดี และหนังมีมุมมองการเล่าเรื่องที่ต่างจากหนังก่อนหน้านี้ นี่ยังไม่รวมความดีงามของภาพ, การคุมโทนของหนัง และคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่ดูแล้วไม่กระจอกนะจ๊ะสามารถทำให้คนดูทึ่งได้ด้วย อีกทั้งยังได้นักแสดงรุ่นใหญ่ อาทิ หม่ำ จ๊กม๊ก, ป๋อง-กพล, ฮาย อาภาพร มาเสริมทัพอีกด้วย เรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ
ผู้กำกับ | 1.เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์2.วัชรพงษ์ ปัทมะ |
คะแนน IMDb | 6.1 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=cYph95bLnGQ |
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทั้ง 5 อันดับหนังไทยฉายปี 2022..ดีจนอยากบอกต่อ บอกเลยว่าใครพลาดสักเรื่องเดียวจะเสียใจ เพราะคุณอาจพลาดหนังสนุกๆ ไปแบบไม่รู้ตัวเลยนะ สล็อตเว็บตรง
เครดิตภาพ : www.majorcineplex.com, www.bangkokbiznews.com, www.patsonic.com, www.workpointtoday.com, www.thestandard.co, www.thairath.co.th, www.khaosod.co.th