“ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้ต่อไป” อาจฟังดูว่าเป็นคำพูดเชยๆ แต่เป็นคำพูดที่อธิบายถึงการสู้ชีวิตได้อย่างเห็นภาพมาก เลยทำให้นึกถึงหนังที่ตัวละครต่างก็ต้องสู้ชีวิตทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด เลยเป็นที่มาของ 5 อันดับหนังสู้ชีวิต เพราะต้องสู้ถึงจะชนะ ที่จะพาทุกคนไปร่วมสู้ชีวิตและเรียนรู้ชีวิตของพวกเขาไปพร้อมๆ กัน
1.วิมานหนาม
“วิมานหนาม” เป็นหนังที่เล่าถึงเรื่องราวของ “เสก” และ “ทองคำ” สองคู่รักชาวสวน ที่พวกเขาสร้างบ้านและทำสวนทุเรียนมาร่วมกันในที่ดินของ “เสก” ก่อนที่ “ทองคำ” จะทำงานปิดหนี้จนทำให้ที่ดินนี้เป็นของ “เสก” อย่างสมบูรณ์ แล้ววันหนึ่ง “เสก” ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำให้แม่และ “โหม๋” น้องสาวที่ถูกเก็บมาเลี้ยงต่างก็อยากยึดครองที่ดินดังกล่าวจนทำให้เกิดการแย่งชิงกันขึ้น
บอกได้เลยว่าหนังไทยเรื่องนี้เป็นหนังดราม่าทริลเลอร์ที่เข้มข้นมาก ที่บอกเล่าเรื่องราวของการสู้ชีวิตกันแบบสุดๆ รวมถึงเรื่องของสภาพสังคม คนชายขอบ หรือแม้แต่เรื่องเพศที่มีความหลากหลายมากขึ้นในสังคมผ่านตัวละครของ “เสก” และ “ทองคำ” ถึงแม้ว่าหนังมีความเข้มข้นดราม่าจัดๆ อาจจะไม่ได้เรียกน้ำตาจากคนดู แต่เชื่อเถอะว่าเรื่องราวการสู้ชีวิตของตัวละครในเรื่องก็ทำเอาหลายคนน้ำตาซึมได้เหมือนกัน ยิ่งมีประเด็นเรื่องเพศ และความไม่เท่าเทียมกันในสังคมร่วมด้วยแล้ว กลายเป็นว่าทำให้คนคนอินเพราะสถานการณ์สังคมปัจจุบันก็เป็นอย่างนั้นด้วยเช่นกัน
ผู้กำกับ | นฤเบศ กูโน |
คะแนน IMDb | 7.9 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=l1gg7dGbUfI |
2. 50/50
“50/50” ชื่อไทย “ฟิฟตี้ ฟิฟตี้ ไม่ตายก็รอดวะ” เป็นหนังที่เล่าถึงเรื่องราวของ “อดัม” ชายหนุ่มที่ดูเพียบพร้อมทุกอย่างมีแฟนสาวอย่าง “เรเชล” และ “ไคล์” เพื่อนรักที่เขาไว้ใจ แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับพบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งทั้งที่อายุยังน้อยและดูแลสุขภาพดี ระหว่างการรักษาถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะอ่อนแอ แต่เขาและ “ไคล์” เพื่อนซี้ ก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งทำให้เขาเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่มากขึ้น
เป็นหนังที่เล่าถึงเรื่องราวการสู้ชีวิตของชายหนุ่มกับโรคมะเร็ง หนังมีความดราม่าผสมผสานไปกับความรู้สึกฟีลกู๊ด เพราะหนังไม่ได้ทำออกมาให้คนดูสะเทือนอารมณ์หรือเรียกน้ำตาแม้แต่น้อย แต่เราจะได้เห็นการสู้ชีวิตในแบบของ “อดัม” ที่รับบทโดย “โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิทท์” กับการสู้แบบมองโลกในแง่ดีและได้กำลังใจที่ดีจากคนรอบข้างด้วย อีกทั้งเราจะได้เห็นมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความผูกพันและกำลังใจจากครอบครัวที่ถือเป็นด้านแรกที่ทำให้คนเราสามารถฝ่าฟันอปุสรรคต่างๆ ไปได้
ผู้กำกับ | โจนาธาน เลวีน |
คะแนน IMDb | 7.6 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=2PwnyGu8epc |
3.ASAKUSA KID
“ASAKUSA KID” ชื่อไทย “เด็กอาซากุสะ” เป็นหนังที่เล่าถึงเรื่องราวของ “คิตาโนะ” กับหน้าที่เด็กกดลิฟท์ของสถานบันเทิงย่านอาซากุสะ ในยุค 60 ก่อนที่จะพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นตกที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกว่าเขาจะก้าวมามีชื่อเสียงได้นั้นต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก และเขาได้รับคำแนะนำจาก “เซนซาบุโร” ตลกชื่อดังในย่านนี้ด้วย
หนังพาคนดูเข้าไปอยู่ในยุค 60 ของญี่ปุ่นและนำเสนอเรื่องราวของตลกชื่อดังในยุคนั้น กับการสู้ชีวิตจากเด็กกดลิฟท์จนกลายมามีชื่อเสียง จึงทำให้หนังมีความน่าสนใจเกี่ยวกับอาชีพตลกที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญ แต่หนังกลับเน้นไปที่เรื่องราวของ “คิตาโนะ” คนนี้ พร้อมทั้งคนดูจะได้เห็นบรรยากาศของอาซากุสะในยุค 60 ว่ามีความสวยงามและคลาสสิคขนาดไหน และถึงแม้ว่าหน้าหนังจะเป็นหนังชีวประวัติแต่ก็ไม่ทำให้คนดูรู้สึกเบื่อเลย แถมยังได้สนุกไปกับเรื่องราวและสายสัมพันธ์อันดีงามของศิษย์และอาจารย์คู่นี้ด้วย
ผู้กำกับ | ฮิโตริ เกกิดัน |
คะแนน IMDb | 7.1 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.netflix.com/th-en/title/81317135 |
4.MY NAME IS LOH KIWAN
“MY NAME IS LOH KIWAN” ชื่อไทย “ผมชื่อโรกีวาน” เป็นหนังที่เล่าถึงเรื่องราวของ “โรกีวาน” ชายหนุ่มที่ตัดสินใจหนีออกจากเกาหลีเหนือเพื่อไปเบลเยี่ยม ดินแดนที่ได้ขึ้นชื่อเรื่องอิสรภาพเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เขาก็ต้องเจอกับอุปสรรคมากมายทั้งการเดินทาง ภาษา วัฒนธรรม และความเหงา จนกระทั่งได้มาเจอ “อีมารี” หญิงสาวชาวเกาหลีใต้ที่ชีวิตที่นี่ เพราะความเหงาทำให้ทั้งคู่ต้องการใครสักคนมาเคียงข้าง
หนังสะท้อนชีวิตของ “โรกีวาน” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ลี้ภัยท่านหนึ่ง ทำให้การเดินทางในครั้งนี้เขาต้องสู้ชีวิตเป็นอย่างมากเพื่อชีวิตใหม่ที่หวังว่าจะดีกว่าเก่า หนังมีความดาร์กอยู่ในตัวไม่น้อยดูจากภาพ แสง สีแล้วสะท้อนให้เห็นถึงความดราม่าแบบจัดเต็ม ถึงแม้ว่าพล็อตเรื่องอาจจะไม่ได้แปลกแหวกแนวสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมีชื่อของพระเอกสุดฮอต “ซงจุนกิ” ร่วมแสดงแล้วก็ทำให้หลายคนอดใจที่จะไปดูไม่ได้เลย
ผู้กำกับ | คิม ฮี-จิน |
คะแนน IMDb | 6.7 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=xUBvWSsBS8g |
5.มานะแมน
“มานะแมน” เป็นหนังที่เล่าถึงเรื่องราวของ “มานะ” ชายหนุ่มที่มีความมานะสมชื่อ เขาพยายามทำงานทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาช่วยแม่ที่ติดหนี้และเพื่อเป็นทุนการศึกษาของน้องสาว แม้ว่าจะมีแก๊งเพื่อนคอยช่วยเหลือแต่ชีวิตก็ไม่ได้ง่าย จนมาเจอกับ “เผือก” เพื่อนรุ่นพี่ที่ “มานะ” เคยฉีกหน้ากลับมาแก้แค้น
เป็นหนังไทยแนวคอมเมดี้ที่เรียกได้ว่า สู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับจริงๆ ของตัวละคร “มานะ” ที่รับบทโดย “นาย-ณภัทร” ที่พยายามทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่ แม้ว่าหนังจะมีความเป็นคอมเมดี้สูงแต่ก็ยังสามารถสะท้อนชีวิตของคนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะบางคนจำเป็นต้องทำอย่างตัวละคร “มานะ” คือทำทุกอย่างเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ต่อสู้กับสภาพเศรษฐกิจที่แย่ การมีหนี้สิน หรือการถูกบูลลี่ก็ตาม ถึงอย่างนั้นหนังก็ไม่ทำให้คนดูเครียดจนเกินไปก็จัดเหล่านักแสดงไม่ว่าจะเป็น จ๊ะ-นงผณี, นุ้ย-ชูเกียรติ, อาไท-สุภทัต, โอ๊ต-ปราโมทย์ มาเสิร์ฟความฮาแบบไม่ให้เครียดกันเลย
ผู้กำกับ | ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ |
คะแนน IMDb | 5.8 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=BmVYKmSp3GI |
หวังว่าทั้ง 5 อันดับหนังสู้ชีวิต เพราะต้องสู้ถึงจะชนะ ที่นำมาฝากนี้จะเป็นกำลังใจให้ทุกคนลุกขึ้นมาสู้กับชีวิต และไม่กลัวชีวิตสู้กลับกันนะ
เครดิตภาพ : www.themoviedb.org, www.imdb.com, www.screenrant.com, www.sfcinemacity.com, www.atime.live, www.hommesthailand.com