ถ้าพูดถึงเรื่องความรักหลายคนก็คงอยากมีความรักที่สมบูรณ์แบบ แต่ชีวิตคนเราไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่างรวมถึงเรื่องความรักด้วย เหมือนอย่างใน 5 อันดับหนังรักที่ไม่แบ่งแยกเพศ ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักที่นอกเหนือจากชาย-หญิงรักกัน แล้วคุณจะได้มุมมองความรักที่เปลี่ยนไปก็ได้
1.THE LIMITATION GAME
“THE LIMITATION GAME” ชื่อไทย “ถอดรหัส อัจฉริยะพลิกโลก” เป็นเรื่องราวความรักของ “อลัน ทัวร์ริ่ง” นักคิด นักคณิตศาสตร์ และนักตรรกศาสตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง รวมถึงเป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้ด้วยการสร้างทฤษฎีรองรับการประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ ทำให้เขามีโอกาสได้เข้าตรวจสอบของกองทัพอังกฤษเพื่อประดิษฐ์เครื่องถอดรหัส จนทำให้เขามาเจอกับ “โจน คลาร์ก” ซึ่งเธอรู้สึกประทับใจเขามาก ในเวลาต่อมา “อลัน” ขอเธอแต่งงานทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ก็ตาม
เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของอัจฉริยะอย่าง “อลัน” ที่มีความสามารถในเรื่องทฤษฎีและการประดิษญ์สิ่งต่างๆ ออกมามากมาย แต่ลึกๆ แล้วเขามีความลับบางอย่างที่ไม่อาจบอกใครได้ว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง เรียกว่าหนังใส่ประเด็นของกลุ่มคนเพศที่สามเข้าไปได้แบบไม่ยัดเยียด รวมถึงบทบาทของผู้หญิงที่ในยุคสมัยหนึ่งนั้นถูกจำกัดให้เป็นเบี้ยล่างผู้ชาย ส่วนนักแสดงอย่าง “เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์” กับบท “อลัน ทัวริ่ง” เขาก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แม้ภายนอกเราจะเห็นว่าตัวละครตัวนี้จะเนิร์สๆ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นคนเอาจริงเอาจังกับเรื่องที่ทำ นอกจากนี้ยังต้องยกความดีความชอบให้กับคำพูดในหนังหลายประโยคด้วยกัน ที่ฟังดูแล้ว คมคาย ชาญฉลาด และยังมีมุกตลกที่พอดีกับหนังมาก จนทำให้คนดูนั้นรู้สึกเพลิดเพลินไปกับหนังเรื่องนี้ด้วย
ผู้กำกับ | มอร์เทน ไทล์ดัม |
คะแนน IMDb | 8 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=j3lHqx7cd9w |
2.CAROL
“CAROL” ชื่อไทย “รักเธอสุดหัวใจ” เป็นเรื่องราวของ “เทเรซ เบลิเว็ท” สาวน้อนวัย 20 ต้นๆ ที่ทำงานเป็นเสมียนประจำห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่นิวยอร์ก ชีวิตของเธอเรียบง่ายมาตลอดจนกระทั่งมาเจอกับ “แครอล” สาวใหญ่ที่แต่งงานแล้ว แต่เธอไม่เคยมีความสุขกับชีวิตครอบครัวเลยแม้แต่น้อย เพราะอย่างนั้นเหมือนทั้งคู่มาเติมเต็มซึ่งกันและกันจนทำให้ความสัมพันธ์ค่อยๆ ดีขึ้นและผูกพันกันมากขึ้น ในเวลาเดียวกัน “แครอล” ก็ต้องเจอกับปัญหาความล้มเหลวในชีวิตแต่งงานกับ “ฮาร์จ” สามีของเธอ
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายที่ชื่อว่า The Price of Salt เขียนโดย แต่งโดย “แพตทริเซีย ไฮสมิธ” ซึ่งวางขายในปี 1952 ที่ตอนเป็นหนังสือเรียกว่ามีเนื้อหาที่แปลกและล้ำหน้ามากสำหรับในตอนนั้น พอถูกนำมาสร้างเป็นหนังทุกอย่างกลับยิ่งกระจ่างชัดมากขึ้น เพราะเรื่องราวเกิดขึ้นในยุค 50 ซึ่งเรื่องเพศที่สามนั้นยังไม่ถูกเปิดกว้างและถูกพูดถึงมากเท่าที่ควร และแม้แต่ผู้หญิงเองก็ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียมกับผู้ชายเลย แล้วเรื่องความรักของผู้หญิงกับผู้หญิงจะเกิดขึ้นและเป็นที่ยอมรับได้อย่างไร และหนังยังสื่อถึงความรักในเรื่องออกมาได้อย่างสวยงามและละมุนจนทำให้คนดูถึงกับแอบอมยิ้มตามไปกับตัวละครเลย อีกอย่างหนึ่งที่อดพูดถึงไม่ได้คือความเป็นวินเทจทั้งเสื้อผ้า หน้าผม รวมถึงภาพสวยๆ ที่ผกก.บรรจงทำออกมาได้อย่างงดงามไร้ที่ติเลย
ผู้กำกับ | ท็อดด์ เฮย์เนส |
คะแนน IMDb | 7.2 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=8jKKnhgI30o |
3.DISOBEDIENCE
“DISOBEDIENCE” ชื่อไทย “เสน่หา…ต้องห้าม” เป็นเรื่องรางของ “โรนิท” ที่โตมาในครอบครัวที่นับถือยิวออร์โธด็อกซ์เคร่งครัดในลอนดอน และพ่อของเธอก็เป็นแรบไบรวมถึงเขารู้ว่าลูกสาวคนเดียวของเขาชอบผู้หญิง เลยทำให้ “โรนิท” หนีออกจากบ้านจนไปเป็นช่างภาพที่นิวยอร์ก ในเวลาต่อมาพ่อของเธอเสียชีวิตทำให้เธอต้องกลับมาร่วมพิธีศพ และทำให้เจอกับ “เอสตี้” ผู้หญิงที่เธอรักอย่างสุดหัวใจ ตอนแรกเธอดีใจมากแต่ก็ต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อรู้ว่าหญิงสาวแต่งงานกับ “โดวิท” ลูกพี่ลูกน้องของเธอ
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงที่เป็นไปไม่ได้เพราะมีเรื่องของครอบครัวเป็นตัวแปร แต่ถึงอย่างนั้นความรักก็ไม่อาจขวางกั้นได้ ในหนังเราจะได้เห็นฉากเลิฟซีนที่น้อยเรื่องนักจะทำออกมาได้อย่างจัดจ้านและเร่าร้อนขนาดนี้ แต่บอกเลยว่ากลับดูเป็นภาพที่สวยงามซะมากกว่า เพราะตัวละครทั้ง 2 นั้นสื่อความรักออกมาทางแววตาให้คนดูได้รับรู้ด้วยคน เลยทำให้เข้าใจได้ถึงฉากเลิฟซีนที่ออกมาในรูปแบบนี้ และทั้ง 2 นักแสดงอย่าง “ราเชล ไวซ์” และ “ราเชล แม็คอดัมส์” ก็ยังทำให้เราเชื่อถึงความรักที่ทั้งคู่นั้นมีให้อย่างเต็มเปี่ยม รวมถึงบรรยากาศภายในหนังที่เล่าเรื่องแบบโทนอึมครึม หม่นๆ ที่เหมือนเป็นการถ่ายทอดถึงอารมณ์ของตัวละครได้เป็นอย่างดี
ผู้กำกับ | เซบาสเตียน เลลิโอ |
คะแนน IMDb | 6.6 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=DVhzHsR0PvA |
4.PORTRAIT OF A LADY ON FRIE
“PORTRAIT OF A LADY ON FRIE” ชื่อไทย “ภาพฝันของฉันคือเธอ” เป็นเรื่องราวของ “มารียาน” หญิงสาวที่มีอาชีพเป็นนักวาดรูป เธอได้ถูกว่าจ้างให้ไปวาดรูปดูตัวของ “เอโลอิส” ที่เกาะแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส แต่ด้วยความที่ “เอโลอิส” ไม่อยากแต่งงานเธอเลยไม่ยอมให้ความร่วมมือในการวาดรูปเท่าที่ควรทำให้ มารียาน” ต้องแกล้งทำเป็นเพียงผู้ดูแลที่แม่เธอจ้างมา แล้วก็แอบวาดภาพของเธอขณะหลับแทน แต่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเริ่มก่อตัวเป็นความรักโดยที่ไม่ใครรู้
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักระหว่างผู้หญิงด้วยกันแต่เป็นการถ่ายทอดออกมาได้อย่างนิ่มนวล ไม่หวือหวาจนเกินงาม เรียกได้ว่าเป็นความรักที่ค่อยเป็นค่อยไปถึงแม้ว่าความรักของเธอสองคนจะเป็นรักต้องห้ามก็ตามที และในยุคสมัยในเรื่องการรักเพศเดียวกันก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่อาจเปิดเผยได้ รวมถึงความเป็นผู้หญิงก็เหมือนกันที่ต้องอยู่กันอย่างลำบากและเจียมเนื้อเจียมตัว ถือได้ว่าเป็นว่ากดดันทางอ้อมของสังคมเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้การเล่าเรื่องของหนังยังเน้นไปที่ความสวยงามของความรัก และเล่าเรื่องราวแบบค่อยเป็นค่อยได้ คนดูจะได้เห็นถึงตัวละคร 2 ตัว อย่าง “มารียาน” และ “เอโลอิส” ที่ถ่ายทอดความรักกันผ่านทางสายตาซะเป็นส่วนใหญ่ ดูแล้วนุ่มนวลและชวนให้น่าค้นหาสำหรับความรักรูปแบบนี้เลยทีเดียว
ผู้กำกับ | เซลีน เซียมมา |
คะแนน IMDb | 8.1 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=hKIROK50RkA |
5.THE BOYS IN THE BAND
“THE BOYS IN THE BAND” เป็นเรื่องราวของแก๊งเพื่อนชาย(รักชาย) ที่มารวมตัวกันในอพาร์ตเมนต์ของ “ไมเคิล” เพื่อที่จัดจัดงานวันเกิดให้แก่ “ฮาโรลด์” ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าแก๊งนี้เลยก็ว่าได้ และเพื่อนๆ ต่างรวมตัวกันทำเซอร์ไพร้สเจ้าของงานด้วยการเชิญ “อลัน” ผู้ชายที่ “ฮาโรลด์” แอบชอบมาร่วมงานด้วย เลยทำให้เจ้าของวันเกิดคิดเกมแก้เผ็ดด้วยการให้คนที่มางานวันเกิดโทรหาคนที่รักมากที่สุดและบอกรัก
หนังเรื่องนี้โด่งดังมาจากละครเวทีเมื่อปลายยุค 60 ก่อนที่จะถูกนำมาสร้างเป็นหนังเมื่อปี 1970 และครั้งนี้ถือเป็นการนำกลับมาทำอีกครั้งในปี 2020 ที่เป็นเรื่องรางของแก๊งเพื่อนชายที่มีใจรักชาย และต้องบอกว่าในยุค 60-70 เรื่องแบบนี้ถือได้ว่าเป็นความรักที่ยากจะเปิดเผยสู่สาธารณชน เพราะด้วยกรอบทางสังคม สีผิว เชื้อชาติ หรือแม้แต่เรื่องของศาสนาก็ตาม แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นความล้ำหน้าของยุคนั้นที่ทำละครเวทีและหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของคนที่รักเพศเดียวกันได้อย่างชาญฉลาด พอมาในยุคนี้เลยทำให้ไม่มีอะไรที่หวือหวา เพราะสังคมปัจจุบันเปิดกว้างมากขึ้น ในเรื่องความสนุกสนานแน่นอนว่าเรื่องนี้จัดเต็มทั้งนักแสดงที่ส่งพลังตรงถึงคนดูได้อย่างดีเยี่ยม บวกกับเนื้อหาที่ดูเพลิน ดูสนุกแบบไม่เครียดอีกด้วย
ผู้กำกับ | โจ มานเทลโล |
คะแนน IMDb | 6.8 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.netflix.com/th/title/81000365 |
ครบถ้วนแล้วกับทั้ง 5 อันดับหนังรักที่ไม่แบ่งแยกเพศ หวังว่าดูจบแล้วคุณจะมีความรู้สึกดี และเข้าใจกับความรักแบบ LGBTQ ไม่มากก็น้อย
เครดิตภาพ : www.theprojector.sg, www.variety.com, www.christylemire.com