ใครที่รู้ตัวว่าเป็นแฟนหนังเอเชียยกมือขึ้น! โดยวันนี้ทางเราได้รวบรวมเอาเฉพาะหนังเอเชียที่หลากหลายอารมณ์ไว้ใน 5 อันดับหนังเอเชียน่าดูต้นปี 2023 เพื่อเป็นการเอาใจคอหนังแนวนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าได้จุใจไปพร้อมๆ กันเลย ถ้าไม่เชื่อไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองดีกว่า
1.HIDDEN BLADE
“HIDDEN BLADE” ชื่อไทย “โค่นคมพยัคฆ์” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวในช่วงสงครามระหว่างจีน-ญี่ปุ่น โดยทางญี่ปุ่นนั้นได้ยึดเอาแมนจูเรีย, เซี่ยงไฮ้, หนานจิง และกวางโจว หัวเมืองใหญ่ของจีนไว้ได้ และมี “ผู้อำนวยการเหอ” ผู้ช่วย “นายพลวาตานาเบะ” ที่ตามล่าสายลับที่แฝงตัวเข้ารุกรานจีนของญี่ปุ่น แต่หารู้ไม่ว่าตัวเขาเองที่เป็นสายลับที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อทำงานนี้จนได้รับความไว้วางใจ แต่เมื่อความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป “นายพลวาตานาเบะ” เลยสั่งให้ “เย่” ที่เป็นเลขาให้จัดการ “ผู้อำนวยการเหอ” ให้สิ้นซาก
งานนี้บอกเลยว่าถูกใจคอหนังจีนอย่างแน่นอน เพราะหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 แล้วไม่ค่อยมีหนังจีนสนุกๆ ส่งตรงมาให้แฟนๆ ได้ดูกันเลย พอมาเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นการกลับมาอย่างสมศักดิศรีมากๆ ยิ่งได้ 2 นักแสดงอย่าง “เหลียงเฉาเหว่ย” และ “หวังอี้ป๋อ” ก็ถือว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว และด้วยความที่หนังเรื่องนี้จะเป็นแนวทิลเลอร์ที่เกี่ยวกับสายลับสองหน้า ที่หลายคนคงจะชื่นชอบหนังจีนที่มีพล็อตเรื่องแบบนี้ แถมยังมีเรื่องสงครามระหว่างจีน-ญี่ปุ่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลยทำให้มีฉากรุนแรงให้ได้เห็นกันบ้าง แต่ถ้าถามถึงเรื่องฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีให้เห็นมากนัก มีประปรายพอเป็นน้ำจิ้มซะมากกว่า แต่ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นการตัดต่อและองค์ประกอบของหนังที่โดยรวมแล้วคนดูต้องชอบอย่างแน่นอน
| ผู้กำกับ | เออร์ เจิ้ง |
| คะแนน IMDb | 6.5 |
| วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=2AWo47Oo34k |
2.DITTO
“DITTO” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ นักศึกษาคณะวิศวกรรมอย่าง “คิมยง” ชายหนุ่มจากปี 1999 ผู้ที่ไม่ได้มีเป้าหมายในชีวิตเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากตามจีบ “ซอฮันซอล” รุ่นน้องที่เรียนคณะเดียวกัน และดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่เอาไหนในเรื่องความรักเสียเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้บังเอิญได้คุยกับ “คิมมูนี” หญิงสาวจากโลกอนาคต ที่คอยให้กำลังใจและคอยให้คำแนะนำแก่เขาอยู่ตลอด เลยทำให้เกิดเรื่องปาฏิหารย์ขึ้นมา
ด้วยความที่เป็นหนังรักเกาหลีเรื่องความละมุนและความอบอุ่นหัวใจนั้นมีให้เห็นแทบทุกเรื่องไป และเรื่องนี้ก็เช่นกันแม้จะเป็นหนังที่เล่าเรื่องราวความรักของหนุ่มสาววัยใสก็ตาม แต่โดยเนื้อหาแล้วก็สามารถทำให้คนดูไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนได้อมยิ้มตามไม่น้อยเลย รวมถึงในเรื่องยังมีฉากซึ้งๆ ที่อาจทำให้หลายคนถึงกับเสียน้ำตาโดยไม่รู้ตัวก็ได้ รวมถึงในส่วนของพล็อตเรื่องที่ทำออกมาได้อย่างลึกล้ำบวกกับเรื่องของมุมกล้องและเพลงประกอบ ที่สามารถผสมผสานทุกอย่างออกมาได้อย่างลงตัวมาก อีกทั้งคาแรกเตอร์ของตัวละครแต่ละตัวนั้นดึงออกมาได้ชัดเจนมาก จนทำให้คนดูอดตกหลุมรักตัวละครทุกตัวในเรื่องไม่ได้เลย บอกได้คำเดียวว่าหนังดีเข้าใจง่ายแถมยังสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมได้อีกด้วย
| ผู้กำกับ | ซอ อึน ยัง |
| คะแนน IMDb | 6.7 |
| วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=HtDHUci4pxA |
3.PHASES OF THE MOON
“PHASES OF THE MOON” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัว “โอซานาอิ เค” ที่เคยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันกับภรรยาและลูกสาว แต่แล้ววันหนึ่งภรรยาและลูกสาวต้องจากไปด้วยอุบัติเหตุ และหลังจากนั้นมานานเขาก็ได้พบกับ “มิซุมิ อากิฮิโกะ” ชายปริศนาที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน โดยชายคนดังกล่าวบอกว่าในวันที่เกิดอุบัติเหตุ “รุริ” ลูกสาวของ “โอซานาอิ” ได้เดินทางมาหาเขา และเขาเองก็ไม่รู้จักเธอเป็นการส่วนตัว เพียงแต่เขาเคยมีคนรักที่ชื่อว่า “รุริ” เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ
เป็นหนังที่นำเสนอในเรื่องการกลับมาชาติมาเกิดของบุคคลอันเป็นที่รักที่ต้องจากไปก่อนวัยอันควร เลยอาจทำให้ช่วงแรกของหนังดูจะงงไปสักนิด แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินมาได้สักพักคนดูก็จะสามารถเข้าใจเรื่องราวได้อย่างราบรื่น และยังทำให้คนดูใจจดจ่ออยู่กับเนื้อเรื่องได้อีกด้วย เพราะหนังสร้างความอยากรู้และน่าติดตามว่าแล้วเรื่องราวต่างๆ จะคลี่คลายและลงเอยอย่างไร และถ้าใครถามหาเรื่องฉากซึ้งๆ บอกเลยว่าในเรื่องนี้มีช็อตให้คนดูได้ซึ้งและประทับใจร่วมไปกับตัวละครอีกด้วย จนทำให้บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว
| ผู้กำกับ | ริวอิจิ ฮิโรกิ |
| คะแนน IMDb | 6.2 |
| วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=kzfSmP_bOAw |
4.THE POINT MEN
“THE POINT MEN” ชื่อไทย “ล็อคเป้าตายค่าไถ่หยุดโลก” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการจับตัวประกันของลูกทัวร์เกาหลี ที่ถูกกลุ่มตาลีบันจับตัวไป ทำให้ทางการเกาหลีต้องส่งทูตนักเจรจาอย่าง “แจโฮ” เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ โดยร่วมมือกับ “แดซิก” เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญพื้นที่ พร้อมด้วย “คาซิม” ล่ามภาษา โดยทั้งหมดต้องทำงานแข่งกับเวลาและชีวิตของตัวประกัน
ใครที่กำลังมองหาหนังบู๊ แอ็คชั่นอยู่ล่ะก็ ดูเรื่องนี้รับรองได้ว่าไม่ผิดหวัง เพราะจัดหนักจัดเต็มเรื่องความบู๊แบบที่อิงเหตุการณ์จริงๆ ร่วมด้วย เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มสีสันและเพิ่มความสมจริงเข้าไปในหนังได้เป็นอย่างมากอีกด้วย รวมถึงเป็นหนังที่สะท้อนในเรื่องของการเมืองที่เป็นการเมืองระดับประเทศ ระดับชาติ เลยทำให้เนื้อเรื่องนั้นมีความเข้มข้นชนิดที่ว่าทำเอาคนดูนั่งไม่ติดเลยทีเดียว เพราะต้องลุ้นกันแบบฉากต่อฉากเลยทีเดียว รวมถึงฉากเจรจาต่อรองเพื่อตัวประกันด้วยแล้วเหมือนเป็นการโชว์ไหวพริบและเล่ห์เหลี่ยมกันแบบถึงเครื่องจริงๆ ในส่วนของการเดินเรื่องของหนังเรื่องนี้นั้น เดินเรื่องได้เร็ว กระชับ คนดูไม่ต้องตีความเยอะ บวกกับได้นักแสดงอย่าง ฮวังจองมิน, ฮยอนบิน และ คังกียอง ที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีความลงตัวไปซะหมด
| ผู้กำกับ | อิม ซูน-ไรย์ |
| คะแนน IMDb | 6.1 |
| วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=nF5jFeFN4Xw |
5.แสงกระสือ 2
“แสงกระสือ 2” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาร่วม 30 ปี แล้วที่ “น้อย” เลี้ยงดูลูกสาวคนเดียวอย่าง “สาว” ที่ได้รับเชื้อกระสือ เพราะเหตุนี้เลยทำให้ “น้อย” และ “บาทหลวงออกัสติน” ช่วยกันคิดค้นหาตัวยาที่สะกัดจากว่านกระสือ เพื่อที่จะเป็นทางรักษาให้ลูกสาวของเขาพ้นกับความทรมานจากการเป็นกระสือ จน “สาว” ได้เจอกับ “คล้าว” ลูกบุญธรรมบาทหลวง ทั้งคู่เกิดรักกันขึ้นมาพร้อมๆ กับเชื้อกระสือในตัว “สาว” ที่ทำให้หญิงสาวมีอาการเพิ่มขึ้นทุกวัน
ถึงแม้ว่าในภาค 2 นั้นจะไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับภาคแรกมากนัก เลยไม่แปลกที่ใครก็สามารถมาดูภาคสองได้เลยแบบไม่ต้องคิดเยอะ ทีแรกหลายคนอาจมองข้ามหนังเรื่องนี้ไปด้วยความที่เป็นเรื่องราวของกระสือ ที่เป็นความเชื่อของไทยมายาวนาน แต่พอได้ลองเปิดใจดูแล้วแน่นอนว่าพล็อตเรื่องอาจไม่ดึงดูคนดูได้มากเท่ากับเหล่านักแสดง ไม่ว่าจะเป็น เจเจ-กฤษณะ, นิ้ง-ชัญญา โดยคู่นี้แม้ฝีมือการแสดงจะไม่ได้คมและชัดเจนมากนักแต่ก็ถือได้ว่าเป็นตัวละครที่สำคัญ แต่ในขณะที่ “น้อย-กฤษดา” และ “ปีเตอร์-นพชัย” ที่ถือได้ว่าเป็นสองตัวละครที่โดดเด่นและเป็นตัวละครที่สำคัญมากๆ ในหนังเรื่องนี้อีกด้วย และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ภาพ, มุมภาพ และเทคนิคการถ่ายทำ รวมถึงคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ที่ทีแรกนึกไม่ออกเลยว่าภาพจะสวยได้ขนาดนี้ รวมถึงเพลงประกอบในหนังที่ได้เจ้าพ่อเพลงรักระดับตำนานอย่าง “บอย โกสิยพงษ์” และ “ตรัย ภูมิรัตน” แต่งเพลงเพราะให้ โดยมี “น้อย-กฤษา” ถ่ายทอดบทเพลงนี้ออกมาสู่สายตาคนดูได้เป็นอย่างดี
| ผู้กำกับ | ปภังกร ปุญจันทรักษ์ |
| คะแนน IMDb | 5.5 |
| วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=L1FOtqlJ-QY |
ครบจบลงแล้วกับทั้ง 5 อันดับหนังเอเชียน่าดูต้นปี 2023 แต่ถ้าอยากรู้ว่าครั้งหน้าจะเป็นหนังเกี่ยวกับอะไรนั้น ต้องคอยติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะ
เครดิตภาพ : www.sfcinemacity.com, www.i0.wp.com, www.rogerebert.com, www.zhuanlan.zhihu.com