ถ้าพูดถึงหนังสักเรื่องแล้วนอกจากเนื้อเรื่องและนักแสดงจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้คนเข้ามาดูหนังเรื่องนั้นๆ แล้ว เรื่องของเพลงประกอบก็เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้หนังออกมาสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เลยเป็นที่มาของ 5 อันดับหนังเพลงประกอบเพราะ..หนังก็ปัง ที่รวบรวมหนังสนุกแถมเพลงยังเพราะมาฝากกันด้วย
1. ซัก ซี้ด ห่วยขั้นเทพ
“ซัก ซี้ด ห่วยขั้นเทพ” เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ “เป็ด” ที่หัดฟังเพลงและเล่นดนตรีเพราะแอบหลงรัก “เอิญ” เพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันไปเรียนที่อื่นจนมาเจอกันอีกทีตอนมัธยม จน “คุ้ง” เพื่อนที่รู้จักกับ “เป็ด” และ “เอิญ” เห็นก็ชอบในทันที บวกกับการที่ “คุ้ง” มีแฝดสุดฮอตอย่าง “เค” ที่รวมวงเข้าประกวดดนตรีเลยทำให้ “คุ้ง” ชวน “เป็ด” และ “เอ็กซ์” มารวมตัวกันเพื่อเข้าประกวดในครั้งนี้
นอกจากหนังจะนำเสนอถึงเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อน ที่แม้บางช่วงบางตอนอาจมีสะดุดและมีเรื่องไม่เข้าใจกันบ้าง แต่สุดท้ายด้วยความเป็นเพื่อนก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ อีกส่วนหนึ่งคือหนังใส่เรื่องของดนตรีเข้าไปผสมผสานได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่ามีเพลงให้ได้ฟังกันตลอดทั้งเรื่องแถมยังเป็นเพลงฮิตที่คนดูสามารถร้องตามกันได้แทบทุกเพลงเลย ไม่ว่าจะเป็นเพลง ทุ้มอยู่ในใจ, เพลงที่ฉันไม่ได้แต่ง, ซักซี๊ดนึง รวมถึงมีวงร็อคแถวหน้า อย่าง ปู แบล็คเฮด, ป๊อด โมเดิร์นด็อก, วง บอดี้แสลม ร่วมเพิ่มสีสันให้ในหนังเรื่องนี้ด้วย
ผู้กำกับ | ชยนพ บุญประกอบ |
คะแนน IMDb | 7.4 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=GEgbtJV1D7w |
2. BEGIN AGAIN
“BEGIN AGAIN” ชื่อไทย “เพราะรักคือเพลงรัก” เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ “เกรต้า” หญิงสาวที่เดินทางมานิวยอร์กเพื่อมาตามความฝันการเป็นนักร้อง แต่เมื่อมาแล้วกลับกลายเป็นว่า “เดฟ” แฟนหนุ่มได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์เสียก่อน แถมยังทิ้งเธอเพื่อไปมีอนาคตที่ดี เลยทำให้เธอเสียใจแต่ก็ต้องดิ้นรนด้วยการเป็นนักร้องในร้านอาหาร จนเจอกับ “แดน” โปรดิวเซอร์ตกอับ ทั้งคู่ทำความรู้จักกันจนความสัมพันธ์พัฒนาไปมากกว่าเพื่อนร่วมงานธรรมดา
หนังได้ถ่ายทอดเรื่องราวของความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ที่มากกว่าแค่คู่รักเท่านั้น บวกกับการผสมผสานเรื่องของดนตรีเข้าไปแบบที่ไม่ได้เป็นหนังแนวมิวสิคัล แต่ก็สามารถทำให้คนดูได้เพลิดเพลินไปกับเพลงที่ใส่ไว้ในหนังให้ได้ฟังกันแบบเพลินๆ นอกจากนี้หนังยังใส่ในเรื่องรางของอุตสาหกรรมเพลงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเพลงที่ทำออกมาในยุคหลังๆ นี้ทำออกมาเร็วและไม่ได้มีความละเมียดละไมเหมือนเมื่อก่อนอีกด้วย ส่วนเพลงที่ได้ฟังในหนังนั้นก็มีเพลงเพรามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Like A Fool, A Step You Can’t Take Back, No One Else Like You, Tell Me If You Wanna Go Home และ Lost Star เรียกได้ว่าจุใจกันไปเลย
ผู้กำกับ | จอห์น คาร์นีย์ |
คะแนน IMDb | 7.4 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=pLRA2wOaYFw |
3. WHIPLASH
“WHIPLASH” ชื่อไทย “ตีให้ลั่น เพราะฝันยังไม่จบ” เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ “แอนดรูว์” ชายหนุ่มที่ชื่นชอบเรื่องการตีกลองมาก จนมีความฝันอยากเป็นมือกลองระดับโลก เลยทำให้เขาได้มีโอกาเสเข้าไปเรียนกับ “เทอเรนซ์ เฟลชเชอร์” ครูสอนดนตรีขั้นเทพและขึ้นชื่อว่ามีวิธีการสอนที่สุดๆ เหมือนกัน บวกกับเพราะเขาเห็นพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัว “แอนดรูว์” เขาเลยหวังปั้นให้มีอนาคตที่ไกล แต่ดูเหมือนว่าวิธีการสอนของเขาจะเป็นการทำร้ายชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
ยอมรับว่าตอนดูทีแรกไม่ได้คาดหวังกับตัวหนังสักเท่าไหร่ ก็นึกว่าเป็นแค่หนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นเหมือนหนังแนวเดียวกันเรื่องอื่นๆ แต่พอได้ดูแบบจริงจังกลับดีกว่าที่คิดเพราะหนังมีความดราม่า ตึงเครียด และกดดันของตัวละครว่ากว่าเขาจะก้าวมาประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องแลกมาด้วยความยากลำบาก ทั้งความอดทน, การมีวินัย รวมถึงการเอาชนะใจตัวเอง อีกอย่างที่ต้องพูดถึงเห็นจะเป็นการแสดงของ “ไมส์ เทลเลอร์” กับบทมือกลองหนุ่ม ที่มุ่งมั่นทำตามความฝันของตัวเอง แถมยังมุ่งมั่นและถ่ายทอดตัวละครนี้ออกได้เป็นอย่างดี และ “เจ เค ซิมมอนส์” กับบทครูจอมเฮี้ยบที่มาพร้อมมาดดุดันไม่เกรงใจใคร ก็แสดงได้ดุเดือดชนิดที่ว่าบทนี้ต้องเป็นเขาเท่านั้น รวมถึงเรื่องเพลงในหนังคนดูยังได้ดื่มด่ำไปกับดนตรีแจ๊สละมุนหู และเพลงเพราะๆ อย่าง Whiplash, Upswingin เรียกว่าจัดเต็มทุกรูปแบบเลย
ผู้กำกับ | เดเมียน ชาเซลล์ |
คะแนน IMDb | 8.5 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=v756Pt8kjnQ |
4. SING STREET
“SING STREET” ชื่อไทย “รักใครให้ร้องเพลงรัก” เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ “คอสโม” เด็กชายที่ย้ายมาเรียนในโรงเรียนชายล้วนที่ไอร์แลนด์ ต้องเจอกับสภาพแวดล้อมใหม่ โรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ และครูใหม่ แถมครอบครัวก็กำลังปัญหาเพราะพ่อแม่กำลังจะแยกทางกัน จนเขาได้เจอกับ “ราฟีน่า” หญิงสาวที่ทำให้เขามีแรงบันดาลใจอยากทำวงดนตรีเพื่อที่จะให้เธอมาเป็นนางเอกเอ็มวี
เป็นหนังที่ขับเคลื่อนด้วยความรักอย่างแท้จริง เพราะเด็กหนุ่มพระเอกของเรื่องที่กำลังมีความรักทำให้เขามีแรงบันดาลใจในการทำอย่างไรก็ได้เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับคนที่แอบชอบ ถือว่าเป็นหนังแนวที่ดูง่าย น่ารักของช่วงชีวิตวัยรุ่น แถมในเรื่องยังที่ใช้ธีมร็อกแอนด์โรลยุค 80s ที่น้อยเรื่องนักที่จะหยิบยกดนตรีในยุคนั้นมานำเสนอเป็นหนัง ก็ถือว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างเพลง Drive it live You Stole it ที่ใช้ในการโปรโมทหนังเรื่องนี้ที่ฟังแล้วเข้ากันกับหนังมากๆ
ผู้กำกับ | จอห์น คาร์นีย์ |
คะแนน IMDb | 7.9 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=9UmY-YoemTo |
5. A STAR IS BORN
“A STAR IS BORN” เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ “แจ็คสัน เมนย์” นักดนตรีหนุ่มที่ตกหลุมรัก “แอลลี่” ศิลปินสาว ซึ่งในตอนนั้นเธอพร้อมยอมแพ้กับความฝันในการเป็นนักร้อง จน “แจ็คสัน” พยายามเกลี่ยกล่อมและผลักดันให้เธอสามารถทำความฝันให้ได้ แล้วเธอก็สามารถสานฝันตัวเองให้สำเร็จ แต่ในทางตรงกันข้ามความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับไม่ได้ราบรื่นตามไปด้วย
หนังเรื่องนี้ได้รีเมคมาจากหนังคลาสสิกในอดีตที่ถูกสร้างมาแล้วเมื่อปี 1976 ที่ในเวอร์ชั่นนี้ก็ยังคงอิงเรื่องราวของเวอร์ชั่นก่อนไว้บ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่ ในครั้งนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวงการเพลง ปรับเนื้อหาให้ดูมีความทันสมัยทันเหตุการณ์มากยิ่งขึ้น แถมยังได้นักร้องคนดังอย่าง “เลดี้กาก้า” มาประกบคู่กับ “แบรดลีย์ คูเปอร์” ที่ทำให้แฟนๆ ต้องกรี๊ดเพราะการแสดงของเธอนั้นดีไม่น้อยกว่าการร้องเพลงเลย แถมในหนังยังร้องเพลง “I’ll Never Love Again” ร่วมกับ “แบรดลีย์ คูเปอร์” และหนุ่ม “คูเปอร์” ยังมากับบทเพลง “Black Eyes” ที่เจ้าตัวเล่นกีตาร์เอง, แต่งเอง และร้องเองอีกด้วย
ผู้กำกับ | แบรดลีย์ คูเปอร์ |
คะแนน IMDb | 7.6 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=e-7y74NidD8 |
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 อันดับหนังเพลงประกอบเพราะ..หนังก็ปัง หวังว่าคงทำให้คุณสนุกทั้งหนังและเพลินทั้งเพลงกันนะ
เครดิตภาพ : www.themoviedb.org, www.minimore.com, www.jediyuth.com, www.amarintv.com, www.radiocolonna.it