มาถึงคิวของหนังไทยในปี 2022 ที่ผ่านมาบ้าง ซึ่งก็มีหลายเรื่องที่ได้รับกระแสตอบรับถล่มทะลาย แม้ว่าจะยังคงอยู่ในช่วงโควิด-19 ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลอะไรเพราะแต่ละเรื่องนั้นก็โกยเงินไปได้มากทีเดียว เลยเป็นที่มาของ 5 อันดับหนังไทยปี 2022..กวาดรายได้เพียบ ส่วนจะมีหนังเรื่องไหนบ้าง อย่ารอช้าไปดูกันเลยดีกว่า
1. บุพเพสันนิวาส 2
“บุพเพสันนิวาส 2” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ “ภพ” ที่ฝันถึงผู้หญิงคนเดิมมาเป็นเวลานานหลายปี จนทำให้เขาเชื่อโดยสนิทใจว่าหญิงสาวในฝันของเขาคือบุพเพสันนิวาส จนกระทั่งได้มาเจอกับ “เกสร” หญิงสาวที่มีหน้าตาเหมือนในฝัน และเธอก็เป็นคนหัวก้าวหน้าเลยไม่เชื่อเรื่องของบุพเพสันนิวาสเท่าไหร่ แถมตอนนี้เธอยังสนใจอยู่กับ “เมธัส” หนุ่มหน้าฝรั่ง ที่สงสัยว่าจะเป็นคนที่เดินทางมาจากโลกอนาคต แถมยังมีเรื่องที่ทำให้ทั้งหมดต้องเข้าไปพัวพันเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองในประวัติศาสตร์อีกด้วย
ตอนที่เป็นเวอร์ชั่นละครก็ทำเอาหลายคนติดอกติดใจไม่น้อย พอถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบหนัง แถมยังได้ชื่อว่าเป็นภาคที่ 2 อีก ทีแรกหลายคนกังวลว่าถ้าไม่เคยดูละครมาก่อนจะดูรู้เรื่องหรือเปล่า แต่เอาจริงๆ ใครที่ไม่เคยดูละครก็สามารถดูเป็นแบบหนังก็ทำให้เข้าใจและสนุกร่วมด้วยไม่ยาก อีกอย่างถึงหนังจะเป็นแนวพีเรียดที่ย้อนไปในยุคเก่าสักหน่อย แต่ด้วยการตีความและการนำเสนอนั้นดูเหมือนว่าจะทำให้คนดูรู้สึกสนุกมากทีเดียว เพราะหนังใส่ความเป็นโรแมนติก, คอมเมดี้ลงไป บวกกับใส่ความทันสมัยลงไปในหนังพีเรียดเรื่องนี้ด้วย ที่สำคัญยังได้คู่พระนาง คนดีคนเดิมอย่าง “โป๊ป-ธนวรรธ์” และ “เบลล่า-ราณี” มาประกบคู่กันเหมือนในละคร ก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้คนอยากเข้าไปมากขึ้นอีก และไม่ผิดหวังด้วยเคมีของทั้งคู่นั้นส่งผลให้ตัวละครที่ได้รับนั้นน่ารัก กุ๊กกิ๊กเข้าไปอีก จึงไม่แปลกที่หนังเรื่องนี้จะโกยรายได้ไปมากถึง 393 ล้านบาท เลยทีเดียว
ผู้กำกับ | อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม |
คะแนน IMDb | 6.2 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=ShD0CvB9kWM |
2. แดง พระโขนง
“แดง พระโขนง” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของทุ่งพระโขนง หลังจากที่ผีนางนากถูกปราบโดย สมเด็จโต ที่แห่งนี้ก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง กระทั่ง 10 ปี ต่อมามีผีเด็กออกอาละวาด แถมยังทำร้ายผู้คนไม่เว้นหน้าอีกเลยทำให้ชาวทุ่งพระโขนงอยู่กันแบบไม่เป็นสุข และต่างก็ลงความเห็นว่าเป็นฝีมือของ “ไอ้แดง” ลูกของนางนาก ที่ ณ ตอนนั้นไม่ได้ถูกนำไปบำเพ็ญเพียรตามแม่ของมันไปด้วย
ถ้าพูดถึงตำนานที่เกี่ยวกับทุ่งพระโขนงทุกคนต้องนึกถึงเรื่องของ ผีนางนาก อย่างแน่นอน แต่ครั้งนี้เป็นการตีความหมายใหม่ด้วยการนำเรื่องของ “แดง” ลูกของนางนากนำมาตีความใหม่ ใส่ความเป็นเรื่องเป็นราวเข้ามาใหม่ แต่ยังคงมีกลิ่นอายของบรรยากาศเก่าๆ ที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ท่าน้ำ ฉากที่ถือเป็นซิกเนเจอร์หลักของหนังเรื่องนี้ก็ยังมีให้เห็นเช่นเคย รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวของ “แดง พระโขนง” รวมถึงผองเพื่อนของเขา พูดถึงมิตรภาพที่ใสบริสุทธิ์ พร้อมทั้งใส่มุกตลกสอดแทรกเข้าไปด้วย แต่ถึงแม้ว่าบางมุกอาจจะเป็นมุกแบบเดิมที่เคยรู้ เคยฮากันมาแล้วก็ตาม แต่โดยภาพรวมแล้วดูได้แบบไม่มีพิษมีภัย เลยทำให้หนังเรื่องนี้กวาดรายได้ไปสูงถึง 72 ล้านบาท
ผู้กำกับ | เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ |
คะแนน IMDb | 5.3 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=qcpeDqtgzFk |
3. วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ
“วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ “บอส” ชายหนุ่มที่ต้องไปทำงานที่มหานครนิวยอร์กด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก “อู๊ด” เพื่อนสนิทสมัยเรียนหนังสือด้วยกัน โทรทางไกลมาเพื่อต้องการบอกว่าอยากพบเขาสักครั้ง พร้อมทั้งบอกข่าวร้ายว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และต้องการชวน “บอส” ออกเดินทางเพื่อไปบอกลาแฟนเก่า รวมถึงยอมเผยเรื่องราวความลับบางอย่างที่ “อู๊ด” เก็บไว้ไม่เคยบอก “บอส” มาก่อน
ถ้าใครที่ต้องการดูหนังที่ภาพสวย แสงดี เนื้อหากินใจเห็นทีต้องไม่พลาดเรื่องนี้แน่ เพราะคุณจะได้รับทั้งหมดตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้ หนังใส่ความหลากหลายในเรื่องของอารมณ์เข้าไปด้วยหลายฉากด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของมิตรภาพระหว่าง “อู๊ด” และ “บอส” หรือแม้แต่เรื่องราวความรักครั้งก่อนของตัวละคร ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างละมุนมาก เหมือนหนังค่อยๆ พาคนดูเข้าไปร่วมสัมผัสเรื่องราวของเหล่าตัวละครทุกตัวได้อย่างถึงแก่นเลยทีเดียว บวกกับเพลงที่ใช้ในหนังที่ดูจะเข้าไปสถานการณ์นั้นมากถึงมากที่สุด รวมถึงการแสดงของทั้ง 2 นักแสดงหลักอย่าง “ต่อ-ธนภพ” และ “ไอซ์ซึ” ที่ถ่ายทอดทุกอารมณ์ออกมาได้ดีมากๆ จึงไม่แปลกใจเลยที่หนังจะกวาดรายได้ไปถึง 71 ล้านบาท
ผู้กำกับ | นัฐวุฒิ พูนพิริยะ |
คะแนน IMDb | 7.2 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=MdY6N-RTrPg |
4. พี่นาค 3
“พี่นาค 3” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ “อ๊อด” สัปเหร่อหนุ่มที่กำลังเตรียมจะเข้าพิธีบวช เลยมีเพื่อนๆ อย่าง บอลลูน, เฟิร์ส และ โท มินจุน มาร่วมงานในครั้งนี้ แต่กลับพบกว่า “อ๊อด” นั้นถูกคำสาปจากกำไลอาถรรพ์ทำให้เขาป่วย รวมถึงถูก ผีนาคคำ ตามมาทวงกำไลดังกล่าวคืนด้วย ร้อนถึงเหล่าเดอะแก๊งที่ร่วมมือกันช่วยล้างคำสาปให้ “อ๊อด” ในครั้งนี้
ใครจะเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะทำมาจนถึงภาคที่ 3 ถ้าใครยังไม่ได้ดูภาค 1-2 แนะนำว่าให้ลองเปิดใจดูก่อนที่จะมาเก็บตกในภาคที่ 3 นี้ ซึ่งพอเดินทางมาถึงภาคนี้แล้วบอกเลยว่าดีงามไม่แพ้ภาคก่อนหน้านั้นเลย ด้วยความที่หนังเรื่องนี้เด่นในเรื่องจองเมกอัพเอฟเฟกต์ของ “ผีนาคคำ” ที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่โดดเด่นไม่แพ้ตัวละครอื่นเลย มาในภาคนี้ก็ทำออกมาได้อย่างน่ากลัวและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน รวมถึงคอมพิวเตอร์กราฟิกต่างๆ ในเรื่องก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเลย และนอกจากความตลกสนุกสนานที่หนังได้สอดแทรกเข้าไปเป็นระยะแล้ว อีกหนึ่งความน่าสนใจที่หนังใส่เข้าไป คือ เรื่องการบวชนาค โดยหนังได้นำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจและอาจทำให้เปลี่ยนความคิดของคนที่ลังเลอยากที่จะบวชเลยก็เป็นได้ เลยทำให้หนังเรื่องนี้โกยรายได้รวมๆ แล้วแค่ 70 ล้านบาทเอ๊ง!
ผู้กำกับ | ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ |
คะแนน IMDb | 6 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=YCtcQ4qif-w |
5. เทอมสองสยองขวัญ
“เทอมสองสยองขวัญ” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวสยองขวัญในรั้วมหาวิทยาลัยอย่าง ตอน “เชียร์ปีสุดท้าย” ที่เหล่าเฟรชชี่ของคณะต้องมารวมตัวกันที่นี่เพื่อทำกิจกรรม แต่ “เมษา” กลับไปได้ยินและได้เห็นบางอย่างจนทำให้ชีวิตของเธอและ “ต่าย” เพื่อนสนิทเปลี่ยนไป รวมถึงตอน “เดอะซี” ที่เป็นเรื่องเล่าถึงผีนักศึกษาแพทย์ที่กลับมานอนที่เตียงซีของเขาทุกปี และปีนี้ก็มีนักศึกษาปีหนึ่งที่อยู่หอคนเดียว ที่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ และตอน “ตึกวิทย์เก่า” ที่ถือเป็นตำนานสยองขวัญที่เล่าต่อกันมา จน “กอล์ฟ” ที่ต้องเอาของมาให้ “มีน” พี่สาว แต่เกิดมาผิดตึก เลยทำให้ทุกอย่างผิดแผนไปหมด
หนังแบ่งเล่าเรื่องราวความสยองออกเป็น 3 ตอน เรียกได้ว่าแบ่งความน่ากลัวและน่าตื่นเต้นเฉลี่ยกันออกไป เพื่อที่คนดูจะได้ไม่ต้องใจเต้นเร็วจนเกินไป ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นก็จบเป็นตอนของตัวเอง ก็ถือว่าเล่าออกมาได้ดีสื่อสารถึงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่ต่างก็มาพร้อมเรื่องเล่าได้ดีอีกด้วย ที่สำคัญใครจะคิดว่าหนังผีจะแทรกเรื่องราวความสัมพันธ์ 3 รูปแบบออกมาได้อย่างแนบเนียน อย่างตอน “เชียร์ปีสุดท้าย” ก็บอกถึงความสัมพันธ์ของเพื่อน, ตอน “เดอะซี” ก็บอกถึงเรื่องความรักหนุ่ม-สาว และตอน “ตึกวิทย์เก่า” ก็บอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่-น้อง ซึ่งตอนสุดท้ายนี้ดูเหมือนจะเบรกอารมณ์ทุกอย่างของคนดูให้จบกลับบ้านไปอย่างสนุกสนาน เลยทำให้ “เทอมสองสยองขวัญ” โกยรายได้ 41 ล้านบาท ไปเลย
ผู้กำกับ | ภัทรภร วีระศักดิ์วงศ์ |
คะแนน IMDb | 5.2 |
วีดีโอตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=dsVmoxdTN00 |
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 อันดับหนังไทยปี 2022..กวาดรายได้เพียบ หวังว่าคงสนุกและเต็มอิ่มไปพร้อมๆ กันนะ
เครดิตภาพ : www.bugaboo.tv, www.entertainment.trueid.net, www.pantip.com, www.imdb.com, , www.welovefivestar.com, www.majorcineplex.com